miny@SBA#07
AE Thailand Club Member
Professor
@@ ไม่ได้ซุ่ม แต่สุ่มทำ @@
กำลังใจ: 515
ออฟไลน์
เพศ:
รถยนต์: EE-100
รหัสเครื่องยนต์: ก็แค่ 7A-FTE + LPG
อุปกรณ์แต่งรถ: แล้วแต่จะหาได้
สังกัดพื้นที่: บางกอกเหนือ - สระบุรี
ที่อยู่: ทาวร์ อิน ทาวร์ และ สระบุรี (แก่งคอย)
กระทู้: 4,432
|
|
« เมื่อ: 08 ตุลาคม 2008, 01:20:19 » |
|
รุ่นที่ 3 KE30
เปิดตัวในเดือนเมษายน 1974 ทำตลาดด้วยตัวถัง 2 และ 4 ประตู, คูเป้, ลิฟต์แบ็ก 2 ประตู (ใช้รหัส TE37) และสเตชันแวกอน 3 และ 5 ประตู ที่ตัวถังด้านท้ายมีทั้งแบบกระจกโปร่งและแบบตัวถังทึบไม่มีกระจก ส่วนรุ่นเลวินและทรูโนใช้รหัส TE47
การปรับโฉมมีขึ้นในเดือนมกราคม 1977 เปลี่ยนรหัสของโคโรลล่า คูเป้มาเป็น TE51 และ TE55 ในรุ่นลิฟต์แบ็ก ใช้ขุมพลังรหัส 2T-GEU 4 สูบ ทวินแคม 1,588 ซีซี EFI พร้อมระบบ TTC-C 110 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม.ที่ 4,800 รอบ/นาที
รุ่นที่ 4 KE70 เป็นโคโรลล่าขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นสุดท้าย เปิดตัวในเดือนมีนาคม 1979 ทั้งแบบ 2 และ 4 ประตู ลิฟท์แบ็ก สเตชันแวกอน 3 และ 5 ประตู ส่วนรุ่นเลวินและทรูโน มี 2 ตัวถัง คือ คูเป้ และฮาร์ดท็อปคูเป้
การปรับโฉมของโคโรลล่า จากไฟหน้าทรงกลมแบบ 4 ดวงและแบบสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก มาเป็น ไฟหน้าสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ มีขึ้นในเดือนสิงหาคม 1981
เครื่องยนต์ของโคโรลล่าตัวถังนี้มี 4 รุ่น คือ 4K-U 4 สูบ OHV 1,290 ซีซี 72 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 10.5 กก.-ม.ที่ 3,600 รอบ/นาที รหัส 3A-U 4 สูบ OHC 1,452 ซีซี 80 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 11.8 กก.-ม.ที่ 3,600 รอบ/นาที รหัส 13T-U 4 สูบ OHV 1,770 ซีซี 95 แรงม้า (PS) ที่ 5,400 รอบ/นาที
ปิดท้ายด้วยรหัส 2T-GEU 4 สูบ ทวินแคม 8 วาล์ว EFI 1,600 ซีซี 115 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 15 กก.-ม.ที่ 4,800 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 4 และ 5 จังหวะ รวมทั้งแบบอัตโนมัติ 2 และ 3 จังหวะ
รุ่นที่ 5 AE80 เผยโฉมในญี่ปุ่นเมื่อพฤษภาคม 1983 ก่อนส่งเข้าเมืองไทยในปีต่อมา นับเป็นรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดอีกรุ่น เช่น ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเป็นครั้งแรก เครื่องยนต์เปลี่ยนมาเป็นตระกูล A
นอกจากนั้น ยังเพิ่มตัวถังใหม่ๆ เข้ามา เช่น ลิฟต์แบ็ก 5 ประตู และแฮทช์แบ็ก 3 และ 5 ประตู (ใช้ชื่อจำหน่าย FX) เปิดตัวในเดือนตุลาคม 1984 และเป็นครั้งแรกโตโยต้าเพิ่มตัวถังสเตชันแวกอนให้กับรุ่นสปรินเตอร์โดยใช้ชื่อ คาริบ
แม้ว่าโคโรลล่ารุ่นที่ 5 เปลี่ยนมาเป็นแบบขับหน้า แต่รุ่นเลวินและทรูโนรหัสตัวถัง AE86 ยังเป็นแบบขับหลัง ใช้ตัวถังต่างจากรุ่นอื่นๆ และวางขุมพลังพันธุ์แรงบล็อกใหม่รหัส 4A-GEU ทวินแคม 16 วาล์ว 1,587 ซีซี EFI T-VIS 130 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 15.2 กก.-ม.ที่ 5,200 รอบ/นาที ที่ผลิตโดยยามาฮ่า
ด้วยสมรรถนะแรง ขนาดกะทัดรัด และรูปทรงไม่ล้าสมัย ทำให้ AE86 ยังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นนักเลงรถชาวญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ความแตกต่างทางด้านรูปลักษณ์ระหว่างเลวินและทรูโนในรุ่นนี้ คือ ชุดไฟหน้า โดยทรูโนจะใช้แบบ POP-UP
สำหรับสปรินเตอร์ ซีดาน แม้ยังใช้ชิ้นส่วนหลักร่วมกับโคโรลล่า ซีดาน แต่ด้านท้ายได้รับการออกแบบใหม่หมด และส่งไปทำตลาดสหรัฐอเมริกาในชื่อ เชฟโรเล็ต โนวา
รุ่นที่ 6 AE90 เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 1987 ด้วยซีดาน 4 ประตู แต่รุ่น FX เหลือแค่แฮทช์แบ็ก 3 ประตูเท่านั้นที่ทำตลาดญี่ปุ่น ส่วนรุ่น 5 ประตูส่งไปทำตลาดในยุโรปและโอเซียเนีย
สปรินเตอร์ นอกจากตัวถังซีดานซึ่งในรุ่นนี้ออกแบบจนแตกต่างจากโคโรลล่าแล้ว ยังเพิ่มรุ่นลิฟต์แบ็ก 5 ประตูในชื่อ สปรินเตอร์ เซียโล-CIELO และใช้ชื่อโคโรลล่า ลิฟต์แบ็ก คอนเควสต์ ในตลาดยุโรปและโอเซียเนีย
เลวินและทรูโน (รหัสตัวถัง AE92) เผยโฉมพร้อมกันและเปลี่ยนมาเป็นสปอร์ตขับเคลื่อนล้อหน้า โดยไฟหน้า POP-UP ยังสร้างความแตกต่างให้กับคูเป้ทั้ง 2 รุ่นนี้เหมือนเดิม
ขุมพลังของโคโรลล่ารุ่นนี้มีตั้งแต่รหัส 2E 4 สูบ OHC 12 วาล์ว 1,295 ซีซี 72 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 10.3 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที ตามด้วยแบบทวินแคม 16 วาล์ว เริ่มจากรหัส 5A-F 1,500 ซีซี คาร์บิวเรเตอร์ 85 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 12.5 กก.-ม.ที่ 3,300 รอบ/นาที และ 94 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.1 กก.-ม.ที่ 4,400 รอบ/นาทีสำหรับรุ่นหัวฉีด EFI (5A-FE)
5A FE
4A FE
รหัส 4A-G 1,587 ซีซี 120 แรงม้า (PS) ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.5 กก.-ม.ที่ 5,200 รอบ/นาที แต่เมื่อเพิ่มซูเปอร์ชาร์จในรุ่น 4A-GZE กำลังสูงสุดจะเพิ่มเป็น 145 แรงม้า (PS) ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19 กก.-ม.ที่ 4,400 รอบ/นาที
นอกจากนั้น ยังส่งสปรินเตอร์ ซีดานไปจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในชื่อ จีโอ พริซึม ยี่ห้อใหม่ของเจนเนอรัล มอเตอร์สที่แยกตัวออกจากเชฟโรเล็ต
ในเมืองไทย เปิดตัวเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 1987 เด่นด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์ 16 วาล์ว เป็นรายแรกในเมืองไทย ใช้เครื่องยนต์ 2E และ 4A-F 16 วาล์ว 1,587 ซีซี 94 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.0 กก.-ม.ที่ 4,000 รอบ/นาที
รวมทั้งรุ่น SPORTY ที่เปลี่ยนคาร์บิวเรเตอร์ของเครื่องยนต์ 4A-F มาเป็นเวบเบอร์ ท่อคู่ดูดข้าง 106 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.9 กก.-ม.ที่ 4,200 รอบ/นาที
การปรับโฉมมีขึ้นในเดือนมีนาคม 1990 และเพิ่มรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และ GTi ขุมพลัง 4A-GE 130.5 แรงม้า (PS) ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.8 กก.-ม.ที่ 6,000 รอบ/นาที
4A GE
4A GZE
รุ่นที่ 7 AE100 เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 1991 ด้วยตัวถังซีดาน พร้อมกับเปิดตัวพี่น้องร่วมสายพันธุ์โคโรลล่า เช่น รุ่นสปรินเตอร์ ที่มีความแตกต่างในด้านรูปลักษณ์อย่างชัดเจน และปิดท้ายด้วยรุ่นแฮทช์แบ็ก 3ประตู FX ฮาร์ดท็อป 4 ประตูในชื่อโคโรลล่า เซเรส, สปรินเตอร์ มาริโน และโคโรลล่า ทัวริ่งแวกอน ในปี 1992
นับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ขุมพลัง 5 วาล์ว/สูบ รหัส 4A-GE 4 สูบ ทวินแคม 20 วาล์ว 1,600 ซีซี 160 แรงม้า (PS) ที่ 7,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.5 กก.-ม.ที่ 5,200 รอบ/นาที ออกสู่ตลาด
กลางปี 1998 ด้วยสาเหตุที่ความนิยลดต่ำลง ทำให้โคโรลล่า เซเรส, สปรินเตอร์ มาริโน และ FX ถูกปลดออกจากสายการผลิต และยุติการทำตลาดในไตรมาสที่ 3 ของปีเดียวกัน และเหลือรุ่น FX ไว้ทำตลาดต่างประเทศเท่านั้น
เลวินและทรูโน รหัสตัวถัง AE101 ออกสู่ตลาดในเดือนมิถุนายน 1991 และรุ่นสูงสุดใช้ ขุมพลัง 4A-GE ทวินแคม 16 วาล์ว พ่วงกับซุปเปอร์ชาร์จ 170 แรงม้า (PS)
ในเมืองไทย โคโรลล่ารุ่นนี้ สร้างปรากฎการณ์ทันทีที่เปิดตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 1992 ด้วยยอดจองผ่านหลัก 10,000 คันอย่างรวดเร็ว จนโรงงานผลิตไม่ทันกับความต้องการ ทำให้โตโยต้าต้องนำเข้ารุ่น LX-LIMITED จากญี่ปุ่นจำนวน 1,000 คันมาแก้ปัญหานี้ โดยต้องเพิ่มราคาอีก 5,000 บาท การปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์มีขึ้นกลางปี 1994 และเพิ่มรุ่น 1,300 ซีซี เกียร์อัตโนมัติ พร้อมรุ่นตกแต่งพิเศษสีเขียวในชื่อ LIME เพียง 300 คันเท่านั้น
4A GE 20 V. 4E FE
รุ่นที่ 8 AE110 เผยโฉมในเดือนพฤษภาคม 1995 แต่ก็ได้รับเสียงวิจารณ์จากลูกค้าและสื่อมวลชนในประเทศอย่างมากถึงการลดต้นทุนด้วยการใช้ชิ้นส่วนร่วมกับรุ่นเดิมมากถึง 40%
|