ขอบคุณน้าๆๆครับ
ผ้าคลัชกลับหรือไม่ ไม่ทราบครับ แต่ให้ช่างใส่ครับไม่น่าพลาดนะครับ
บอกอาการเพิ่มเติมนะครับ
ตอนออกตัว ถ้าออกตัวเบาๆค่อยๆออกไม่เป็นนะครับ
ถ้าออกตัวแรงก็จะดัง กืดๆๆๆๆๆ เป็นเกียร1 และเกียร2บ้างนิดหน่อย พอรถออกตัวไปแล้วไม่เป็นครับ
(ตั้งแต่ได้มาเกือบ2ปี กะว่าจะประหยัด กลับกลายเป็นซ่อมตลอดเลยครับโดนไป5-6หมื่นแล้ว ตั้งแต่ทำเครื่อง ช่วงล่าง โช๊ค ตั้งศูนย์4ครั้งแล้ว ทำทีละอย่างทำแล้วก็ตั้งศูนย์ๆๆๆ) เฮ้อเบื่อและ
เครื่องเดิมผม 2E ไปเชียงใหม่มา ขากลับกรุงเทพฯ ปะเก็นฝาสูบแตก น้ำรั่วหมดหม้อน้ำ เครื่องไปโอเวอร์ฮีทที่ตาก
ช่างที่ตากถอดฝาสูบไปปาด
ตอนที่ถอดไม่เห็นเขาทำการมาร์คตำแหน่งอะไรไว้เลย
พอใส่กลับ เขาให้ลูกน้องหมุนเพลาข้อเหวี่ยงไปอัดวาวล์คด
สรุป....ผมต้องนอนค้างที่ตากอีกคืนนึง ช่างส่งฝาสูบไปโรงกลึงอีกรอบให้ทำวาวล์ขึ้นมาใหม่
อ้อ ไอ้ที่เขาทำวาวล์คดนั่น เขาคิดตังค์ค่าวาวล์ผมด้วยนะ
ผมขี้เกียจมีปัญหา เพราะจะกลับบ้าน เลยจ่ายๆไปครับ
ผมเล่าให้น้าฟัง เพราะช่างซ่อมรถบางคนเป็นได้แค่ "ช่างเถอะ" ครับ
รถผมให้ช่างแถวบ้านทำก็คล้ายน้านั่นแหละ
คลัทช์ลื่น ผมบอกให้ตรวจดูให้หมดนะ "อะไรเสีย เปลี่ยนให้หมด"
พี่แกยกขึ้นมา เปลี่ยนแต่แผ่นคลัทช์ ลูกปืนก็ไม่เปลี่ยน ผมเปลี่ยนคลัทช์ได้ไม่ถึงสองเดือน ลื่นอีกแล้ว (ค่าแผ่นคลัทช์ไม่เท่าไหร่ ค่าแรงสองพัน)
รอบนี้ย้ายอู่ครับ อู่ใหม่ยกออกมาปรากฎว่าแผ่นกดคลัทช์ล้มไปครึ่งนึงแล้ว หมดสภาพแล้วไม่เปลี่ยนให้ ปะเก็นท้ายเกียร์รั่ว น้ำมันเกียร์ไหลเข้ามาเปรอะแผ่นคลัทช์หมดเลย
ช่างแจ้งว่า มีรอยเอาซิลิโคนยาไว้ที่ปะเก็น ซึ่งมันเอาไม่อยู่ครับ (ผมบอกให้เปลี่ยน ช่างคนเก่าขี้เกียจถอด เอาซิลิโคนยาแทน)
ถ้าผม "เชื่อช่าง" ผมก็ยึดติดกับช่างคนแรกไปครับ ป่านนี้คงได้บรรลัยทั้งคันแล้ว
อ้อ เมื่อวานจะให้เขาเปลี่ยนไดชาร์จให้ ก็พูดโยกโย้ไปมา อ้างนู่นอ้างนี่ ไดชาร์จผมเสีย มาย้อนผมว่าเกจ์วัดผมเสียมั้ง แล้วไม่ยอมเปลี่ยนให้
ผมบอกมีกลิ่นไหม้นะ เขาบอกว่ากลิ่นแก๊สไหม้ครับ (แก้สไหม้ รถผมคงระเบิด ตายโหงไปแล้วละ)
สุดท้ายผมรำคาญ เลยเอาไปให้ช่างไฟอีกคนเปลี่ยนให้ เรียบร้อยครับ งานจบ
น้าลองเปลี่ยนอู่ดูบ้างซีครับ เผื่อจะเจอไรดีๆบ้าง