ขอเสริมเพิ่มเติมนะครับ
น้ำมันเครื่องสำหรับรถเบนซิน ตอนนี้เกรดไกลสุด API SM
เช่นเดียวกับเครื่องดีเซลครับ ตอนนี้ไกลสุดอยู่ที่ CI-4 พวกเกรด CF อย่าไปซื้อนะครับ มาตรฐานการปกป้องมันต่ำกว่าเยอะ
ส่วนที่เค้าเขียน API SJ/CF คือแค่บอกว่าเอาไปใช้กับเครื่องดีเซลก็ได้ แต่ไม่ควรเอาไปใช้นะครับ เพราะเกรดมันจะค่อนข้างต่ำ
ควรเลือกให้ตรงกับเครื่อง เช่น จะเอาไปใช้กับเครื่องเบนซิน ควรเลือกเกรด 10W-40 API SM/CF ส่วนใหญ่ถ้าน้ำมันเครื่องสำหรับเบนซิน ค่าของดีเซลจะต่ำครับ (CF)
พวก 5W-40, 10W-40 เป็นค่าความหนืดของน้ำมันเครื่อง ควรเลือกให้เหมาะกับเครื่องยนต์ เช่น เครื่องยนต์ใหม่ๆ เพิ่งออกป้ายแดง ควรเลือกน้ำมันเครื่องที่ใสมากๆ และมาตรฐานการปกป้องสูงสุด เช่น 0W-40, 5W-40 เลขหน้า W คือความหนืดของน้ำมันเครื่องช่วงที่อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องต่ำๆครับ ส่วนเลขหลัง (40) คือความหนืดของน้ำมันเครื่องช่วงที่อุณหภูมิการทำงานปกติครับ (ตอนขับปกติ)
เลขที่อยู่ข้างหน้า W ต่ำๆ ดียังไง ก็เพราะว่ามากกว่า 50% ของการสึกหรอของเครื่องยนต์ เกิดจากการสตาร์ทเครื่อง ตอนน้ำมันเครื่องอุณหภูมิต่ำ (ตอนเช้า) ยิ่งน้ำมันเครื่องใส (ความหนืดน้อย,เลขต่ำๆ) มากเท่าใด มันจะยิ่งไปเคลือบชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ได้เร็วเท่านั้น การสึกหรอที่เกิดขึ้นก็จะน้อยตามลงมาครับ
แต่ถ้าเครื่องยนต์เก่าแล้ว วิ่งมาสองสามแสนกิโลแล้ว ไม่แนะนำให้ใช้พวกเลขหน้าต่ำๆนะครับ เพราะเลขหน้าต่ำ ฟิล์มน้ำมันก็จะบางตามไปด้วย รถที่วิ่งมาเยอะๆแล้ว ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ก็สึกหรอไปพอสมควรแล้ว จะส่งกำลังไปที่ล้อและเพลาได้น้อยลง ดังนั้นควรเลือกน้ำมันเครื่องพวกเกรด 10W-40, 15W-50, 20W-50 พวกนี้นะครับ อย่าไปเลือกใช้พวก 0W, 5W ล่ะครับ ไม่คุ้มแน่นอน เพราะเกรดพวกนั้นแพงมาก เหมาะสำหรับรถใหม่ๆ เครื่องแน่นๆ เท่านั้น
หากมีประโยคไหนผิดไปก็ขออภัยด้วยนะครับ แต่ที่ผมรู้มาก็ประมาณนี้ พอดีบ้านขายน้ำมันเครื่องอ่ะครับ