4A GZE

4A-GZ ถ้าจะนับกันตั้งแต่แรกเลย จะมีในรถ AW11 เรียกว่า MK II ครับ หรือเป็นต้นตระกูลของ MR-2 ครับ

4A-GZ ตั้งแต่รุ่นแรกๆ ก็มี 145แรงม้าซึ่งมักจะเรียกว่า 4A-GZ ปลั๊กเหลือง ใช้ระบบวัดอากาศ L-JET (airflow)
และในปีถัดๆ มามีการนำเอา 4A-GZ ปลั๊กเหลืองมาใส่ใน AE92 และมีการปรับปรุงแล้ว โดยเปลี่ยนจากจานจ่ายมา
เป็นคอย์ลคู่ ลูกสูบเป็นแบบ Semi-Forge (ไม่รู้มันผลิตไงอ๊ะ) CR (Compression Ratio) อยู่ที่ 8.0:1 ซึ่งเป็น
วิธีการในปีนั้นๆ ที่ใช้ลดกำลังอัดเมื่อมีเครื่องอัดอากาศเข้ามาในเครื่องยนต์ เนื่องจาก 4A-GZ มีต้นกำเนิดมาจาก 4A-GE
ซึ่งเป็นเครื่องมี CR สูง ถึง 10:1

พอมาปลายๆ รุ่น AE92 มีการปรับปรุง 4A-GZ อีกครั้งด้วยการใส่ระบบวัดอากาศ D-JET (MAP) มีกำลังเครื่อง
165 แรงม้า และด้วย MAP ตัวนี้มี Part Label สีส้ม เลยเรียกกันว่ารุ่น map ส้ม ช่างบางแห่งใช้วิธีการเรียกแยก
อีกหลายอย่าง เช่น mapในตัว (ซึ่ง map รุ่นนี้ ติดอยู่ที่ท้ายเครื่องยนต์) หรือว่าจะเรียกว่า ครัชนอก เพราะครัชของ
Supercharger อยู่ฝั่งด้านนอกของเครื่องยนต์ 4A-GZ ตัวนี้ เป็นลูกสูบแบบ Forge และมีการเคลือบ ceramic
บนหัวลูกสูบแล้ว โดยมี CR (Compression Ratio) อยู่ที่ 8.9:1

พอเปลี่ยนเป็น AE101 มีการปรับปรุง 4A-GZ อีกครั้งด้วยการจัดการข้อบ่งพร่องหลายๆ อย่างของรุ่นที่แล้ว ไม่ว่าจะ
เป็นเรื่องของลูกสูบ ที่มีการทำให้เบาขึ้น ทำให้เครื่องมีภาระน้อยลง ระบบร่องแหวนที่ดีขึ้น ลดการแตกหักและช่วย
ให้กำลังอัดและการกวาดน้ำมันเป็นไปได้ดีกว่าเดิม และสุดท้าย ใหญ่กว่าต้องดีกว่า คือ supercharger ตัวใหญ่ขึ้น
และเปลี่ยนตำแหน่งครัชให้มาอยู่ด้านในแทน ช่างที่เรียกตำแหน่งของครัช supercharge จะเรียกเครื่องตัวนี้ว่า
"ครัชใน" หรือใครจะแยกจากสีของ Part Label จะเรียกว่า MAP เขียว เครื่องตัวนี้มี 175แรงม้า บางคนเรียกเครื่อง
รุ่นนี้ว่า spec อเมริกา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ที่อเมริกาไม่มี AE101 ที่มีเครื่อง 4A-GZ ขาย ก็ไม่รู้ว่าเรียกกันไปได้
อย่างไร สรุปคือ ที่ US ไม่มี 4A-GZ นี้ด้วยซ้ำ เค้าก็อยากได้มากด้วยเช่นกัน ในเรื่องของระบบส่งกำลัง ในรุ่นนี้ มีการ
เปลี่ยนแปลงแบบของครัชส่งกำลัง มีขนาดเพิ่มจาก 8.5นิ้ว เป็น 9นิ้ว และมีหน้าครัชคนละแบบกันทำให้ใช้ของแต่งร่วม
กันไม่ได้ (ซึ่งจะทำให้ใส่ข้ามกันไม่ได้นั่นเอง) ส่วนระบบเกียร์ มีการเรียงเฟืองต่างกันออกแต่ก็ใกล้เคียงกัน