Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /home/aethail1/domains/aethailand.com/public_html/forum/Sources/Load.php(225) : runtime-created function on line 3
ท่อไอเสียVCEลิ้นแปรผันเร่งขึ้นไวตั้งแต่เดินเบา/กลางแรงขึ้นอีก/ปลายลากได้เพิ่ม/ไดโน1,2,3(ดูลาก
*ShoutBox
หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25 26 ... 68   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ท่อไอเสียVCEลิ้นแปรผันเร่งขึ้นไวตั้งแต่เดินเบา/กลางแรงขึ้นอีก/ปลายลากได้เพิ่ม/ไดโน1,2,3(ดูลาก  (อ่าน 313186 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #575 เมื่อ: 04 มกราคม 2013, 10:19:00 »

จาก link นี้ http://www.formula1-dictionary.net/exhaust_road_perf.html
Today's understanding of exhaust systems and fluid dynamics has given rise to a number of mechanical improvements. Some very smart people in motorcycle racing at Yamaha developed an ingenious device called an exhaust throttle valve (actually Yamaha called theirs an EXUP valve and were the first to use this idea; Honda called theirs the H-VIX valve). These valves are placed at the merge points of the header primaries. They are kept open and are continuous with the header. At cam overlap, the valve partially closes. This prevents both the intake air-fuel mix from shooting into the header (called overscavenging) and blocks any reflected exhaust wave from arriving back to the combustion chamber. When cam overlap is over, the valve re-opens. So there is a brief increase in backpressure at cam overlap only with the exhaust throttle valve and nowhere else along the engine cycle. The valve is activated and then disabled by the ECU which measures ignition timing to determine when cam overlap occurs and the potentiometer to determine the position or angle of the throttle valve itself. It constantly adjusts the back pressure within the collector of the exhaust system to enhance pressure wave formation as a function of engine speed. This ensures good low to mid-range performance.
More supercars now employ variable back-pressure exhaust. It is somewhat like the variable intake manifold, just locate at the exhaust.


สั้นๆ สรุปจากข้อความส่วนท้าย
………(ที่อธิบายมาข้างหน้าทั้งหมดทำไป) ....เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถจะให้ประสิทธิภาพดีจากช่วงรอบต่ำถึงรอบกลาง, รถสปอร์ตชั้นดีหลายคันในปัจจุบันจึงใช้ระบบท่อไอเสียแบบปรับแบคเพรสเชอร์ได้ คล้ายๆ ระบบไอดีที่เป็นแบบวาริเอเบิล แต่นี่มาติดตั้งที่ช่องทางเดินไอเสีย

]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[

หันมาดูท่อสูตร VCE บ้าง ท่อสูตรแบบนี้ เมื่อติดตั้งกับรถของท่าน ก็จะเปลี่ยนระบบไอเสียของท่านจากระบบธรรมดาๆ ที่ เป็น for any fixed exhaust pipes, the choose of working RPM is always a compromise. ที่เฉลี่ยระหว่างรอบเครื่องต่างๆ (เป็นแบบนี้ทุกยี่ห้อรถครับถ้าไม่ใช่รถซุปเปอร์คาร์ถึงจะใช้ท่อแต่งก็เป็นแบบนี้) รอบกลางถึงรอบต่ำก็จะได้แรงบิดเพียงพอใช้ได้เท่านั้นไม่เต็มที่ แต่ท่อ VCE ที่ทำงาน variable back-pressure exhaust ได้ตั้งแต่รอบเครื่องต่ำๆ ตั้งแต่รอบเดินเบาขึ้นไป ก็จะให้แรงบิดออกมาเต็มที่ทุกรอบเครื่อง

ให้ผลเต็มที่จากรอบต่ำไปถึงกลาง และมันยังทำงานต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จรดรอบเครื่องสูงสุด (ช่วงรอบกลางไปทางสูงให้ผลไม่มากนัก)  ให้ผลเพิ่มอีกในช่วงรอบเครื่องสูงๆ การลากรอบเครื่องที่ปลายเกียร์ก็จะลากได้เพิ่มขึ้น ได้แรงบิดและแรงม้าเพิ่มอีกความเร็วปลายก็เพิ่ม (สำหรับเกียร์ AT การตอบสนองคันเร่งก็จะดีขึ้นตั้งแต่รอบเดินเบาขึ้นไป แรงบิดจะมาต่อเนื่องมาจากรอบต่ำๆ ลดอาการกดคันเร่งแต่รถไม่ตอบสนองในรอบต่ำที่ต้องรอให้แรงบิดมาก่อนก็ดึงหนักทันทีที่ทำให้ไม่ราบรื่น ลดอาการชะลอรถแล้วไปต่ออืดๆ)  ลดอาการรอบเครื่องและความเร็วตกไวเวลาถอนคันเร่ง และแรงหายหรืออืดๆ เวลาผ่านทางลาดชัน

/////////////////////////////\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\

 
Tiger เปลี่ยนเครื่องเป็น 2j-3000cc
ก่อนติดตั้งท่อสูตร VCE ความเร็วที่ต่ำกว่า 80 กม./ชม. จะอืดๆ เล็กน้อย ในช่วงความเร็วที่ต่ำกว่านี้ถ้ามีการชะลอแล้วเร่งเครื่องไปต่อจะรอรอบ (เวลากดคันเร่ง คันเร่งจมลงไปตามลำดับแต่ความเร็วไม่ค่อยเพิ่ม ไม่ค่อยพุ่งตามเท้า)

ภายหลังติดตั้งท่อ VCE แล้วก็ดีขึ้น (โดยความเร็วสูงๆ ไม่ลดความจัดจ้านลงไปอย่างท่อสูตรอื่นๆ ที่พยายามทำให้ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ดีขึ้น)
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #576 เมื่อ: 05 มกราคม 2013, 11:10:29 »


อัลฟาโรมิโอ 2000cc คันนี้เคยรายงานว่า

ในเรื่องการประหยัดน้ำมัน
ในเมืองจากเดิม 8.6 กม./ลิตร เป็น 9.4 กม./ลิตร
นอกเมืองจากเดิม 14-15 กม./ลิตร เป็น 16 กม./ลิตร


]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[

 




Ford Everest 2500cc ไม่มีแคท

ไม่มีแคทนั้นจะเร่งความเร็วเมื่อรอบเครื่องขึ้นสูงเลย 2500-3000 รอบพุ่งขึ้น แต่ช่วงรอบเครื่องที่ต่ำกว่านั้นจะเร่งไม่ค่อยดีเท่าเดิมที่มีแคทอยู่ ถ้ามีการผ่อนความเร็วหรือถอนคันเร่งในช่วงรอบเครื่องนี้ รอบเครื่องและความเร็วจะตกวูบเร็ว เป็นเพราะท่อโล่ง (แต่ลิ้นในท่อ VCE จะประคองรูท่อให้แคบเข้าเมื่อรอบเครื่องต่ำลง)


ท่อไอเสีย VCE จึงช่วยได้ เนื่องจากมันหรี่รูท่อได้เล็กลง (ตั้งแต่รอบเครื่องประมาณ 2500-3000 รอบลงไป) ขนาดรูท่อจะเล็กลงเมื่อรอบเครื่องต่ำลง ทำให้ไอเสียที่ไหลเอื่อยๆ มากขึ้นในรอบเครื่องที่ต่ำลงไหลได้เร็วขึ้น และรูท่อขยายใหญ่ขึ้นเมื่อรอบเครื่องสูงขึ้น จึงทำงานสอดคล้องกับความต้องการของเครื่องยนต์พอดี ไอเสียก็ไหลได้เร็วขึ้นทุกรอบเครื่อง (ไม่ว่าช่วงรอบสูง ช่วงรอบกลาง และ ช่วงรอบต่ำ) สมบูรณ์แบบที่สุดแล้วในเทคโนโลยี่ท่อไอเสียปัจจุบันเท่าที่จะให้ได้ครับ
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #577 เมื่อ: 06 มกราคม 2013, 10:40:53 »

Mazda 3 1600cc AT
ส่งทางไปรษณีย์ EMS ครับ ซื้อไปให้ร้านท่อใกล้บ้านติดตั้งให้ (มีคู่มือการติดตั้งและที่ตัวท่อเขียนบอกรายละเอียดไว้ด้วยครับ)

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่เฟซบุคเพจนี้ครับ (หัวข้อ รายละเอียดของท่อสูตร VCE)
http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3-VCE/444515408918414

]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[

รถยนต์เกียร์ AT ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ จะมีอาการรอรอบถือเป็นเรื่องปกติ แรกๆ ถ้าเราไม่ชิน แม้ว่าเมื่อเราปล่อยเบรกรถไหลออกไปได้ แต่พอเรากดคันเร่งเบาๆ เพื่อส่งต่อรถกลับไม่ตอบสนอง จนครู่หนึ่งเมื่อรอบเครื่องตวัดเลย 1000 รอบหรือ พันกว่ารอบรถก็จะดึงกระชากออกไปเลย ซึ่งถ้าเราคุ้นชินแล้วก็จะแก้โดยการกดคันเร่งแล้วผ่อน แต่อีกปัญหาหนึ่ง เมื่อรถออกตัวไปแล้วผ่านความเร็วประมาณ 30 ถึง 60 แล้วเราต้องชะลอความเร็ว รอบเครื่องอยู่ที่ 1000 นิดๆ ถึงไม่เกิน 2000 รอบ ถึงจังหวะต้องเร่งเครื่องไปต่อก็จะพบอาการว่ารอรอบ กดคันเร่งไปแล้วรถไม่ขึ้นไวตามเท้า จะเค้นก็ไม่พุ่งได้ดั่งใจ (นี่เป็นสาเหตุให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและน่าหงุดหงิด)

ท่อไอเสีย VCE ที่ปรับเพิ่มและลดขนาดท่อโดยอัตโนมัติ (ควบคุมด้วยแรงดันไอเสียและตัวควบคุม) มีผลให้ไอเสียไหลออกเร็วและได้ปริมาณการไหลออกสูงกว่าในจังหวะเร่ง (ทำให้ได้แรงบิดสูงกว่าตั้งแต่รอบเครื่องต่ำๆ และได้แรงบิดเพิ่มต่อเนื่องเพราะมีการปรับขนาดท่อต่อเนื่อง) และค่อยๆ ผ่อนไอเสียขณะถอนคันเร่ง (ทำให้รอบเครื่องตกช้าลงความเร็วจะไม่ลดวูบ) ต่างกับท่อแต่งอื่นๆ ที่แม้ทำให้ช่วงรอบต่ำดีขึ้นก็เพียงค่าเฉลี่ย (ได้เพิ่มก็ยังไม่เต็มที่อยู่ดี) ช่วงถอนคันเร่งก็เป็นค่าเฉลี่ย (จึงยังเห็นว่ารอบเครื่องยังคงตกเร็วอยู่)
 *กูรูวิชาการ*
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #578 เมื่อ: 07 มกราคม 2013, 14:57:09 »

สวัสดีปีใหม่ทุกๆ คนครับ

 ซึ้ง


(รับประกันครับ /ถึงจะมีคนโจมตีก็เถอะนะครับไปห้ามเขาก็ไม่ฟังหรอกครับท่านเหล่านั้น
รับประกันว่า วีโก้ ถ้า MT 2.5 เดิม เกียร์ 2 ลากได้ 2500-2600 รอบก็ตื้อๆ ไม่ไปแล้ว จะลากได้ 3000 กว่ารอบ (2.7 หรือ 3000 ก็เหมือนกันลากได้เพิ่ม) และเสียงช่วงที่ลากได้จะหวานๆ นะ อธิบายยาก ช่วงที่ลากได้เพิ่มรถเบาๆ ไปเลย / คนขับเขาว่า ผมนั่งข้างก็มองว่าลากได้จริงรถฉิวๆ ขึ้นไป)

 วีออส (หรือรถเก๋งอื่นๆ) ก็ทำได้แบบนั้น วันก่อนได้ขับวีออสรถของญาติเกียร์ AT LPG สังเกตว่าผมไม่คุ้น เวลาออกตัวผมชินผมปล่อยเบรคให้รถไหลแล้วถึงจะกดคันเร่งและจะไม่กดลึกทันทีจะกดเบาๆ ปรากฏว่ารถไหลออกไปแล้วก็จะอืดๆ เร่งขึ้นช้า (ตอนหลังผมแก้โดยการพอออกตัวจะกดลึกทันทีแล้วรีบถอนก็จะพอพุ่งดีขึ้น แต่ก็พบว่าถ้ากำลังขับลอยๆ อยู่ความเร็วระหว่าง 30 ถึง 60 ถ้ามีการชะลอความเร็วแล้วต้องเร่งไปต่อจะอืดค่อนข้างเห็นชัด กดคันเร่งจมลงไปรอบขึ้นแต่ความเร็วจะไม่ขึ้นตามทันที) ซึ่งอาการเหล่านี้ท่อไอเสีย VCE เติมให้เต็มได้  100% ครับมั่นใจได้

//////////////////////////////////



Triton 2.4MT ระบบท่อไอเสียเดิมๆ (ติดตั้งท่อ VCE เพิ่่มเข้าไปเฉยๆ หน้าหม้อพัก)
 

 Triton2.4 MT เดิมๆ ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ จะไม่ค่อยพุ่งเต็มที่ เมื่อติดตั้งท่อ VCE ก็จะพุ่งเพิ่มขึ้นตั้งแต่รอบเครื่องต่ำๆ ทำให้จัดจ้านกว่าเดิม ต่อเนื่องขึ้นไปจนถึงความเร็วประมาณ 100 km/h และเวลาถอนคันเร่งความเร็วและรอบเครื่องจะตกช้าลง (ทำได้ใกล้เคียงกันทุกช่วงความเร็ว) ซึ่งไม่มีท่อแต่งอื่นๆ ทำได้แบบนี้ / มีแต่ทำให้ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ดีขึ้นเล็กน้อยแล้วมีผลให้ความเร็วช่วงกลางขึ้นไปเร่งไม่ดีเหมือนเดิมและรอบเครื่องยังตกเร็วเมื่อถอนคันเร่ง


  ส่วนใหญ่ เจ้าของรถจะคิดแต่เพียงว่าระบบไอเสียมันคงจะเริ่มอั้น ก็อยากไปทำให้โล่งๆ ผมก็แนะนำไปว่า ถ้าความเร็วสูงยังพุ่งดีไม่มีปัญหา แต่อยากได้ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ให้พุ่งดีขึ้น ตอบสนองตามเท้าได้มากขึ้นโดยช่วงความเร็วสูงๆ ไม่อั้น ก็ให้ติดตั้งท่อ VCE เพิ่มเข้าไปเท่านั้นครับ


มีเพียงท่อ VCE เท่านั้นที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แทนที่จะให้โล่งมากๆ (ที่เรี่ยวแรงลด) ก็ทำให้เป็นตรงกันข้าม (ด้วยลิ้นที่ปรับได้) รอบเครื่องสูงขึ้นก็ทำให้โล่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยลิ้นที่เปิดกว้างขึ้นตามรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นด้วยแรงดันไอเสีย (ต่างจากท่อแต่งอื่นๆ ที่รอบเครื่องสูงหรือรอบต่ำก็อั้นอยู่เท่าเดิม ถ้ารอบต่ำอั้นได้แล้วรอบสูงไม่อั้นได้อย่างไร รอบสูงก็ไหลไม่ทันจะดีได้อย่างไรครับ  /ถ้าดีรถสปอร์ตชั้นดีก็ใช้ไปแล้วระบบนี้)

จึงให้เรี่ยวแรงพุ่งขึ้นดีกว่าเดิมในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และในรอบเครื่องกลางๆ (ที่ลิ้นเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ) จนไปสัมพันธ์กับของเดิมที่ดีอยู่แล้วที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ขึ้นไป ซึ่งทำได้เพียงหนึ่งเดียว ท่อไอเสีย VCE เท่านั้นครับ


]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[


เทคนิคล่าสุดของระบบไอเสีย (ท่อไอเสีย VCE ให้ทำงานตั้งแต่รอบเดินเบาขึ้นไป / ของนอกจริงๆ แล้วจะทำงานแบบกึ่งวาริเอเบิล)

คือ


Variable Back-Pressure Exhaust

More supercars now employ variable back-pressure exhaust. It is somewhat like the variable intake manifold, just locate at the exhaust. Normal exhaust pipes for sports cars collect exhaust pulse from individual cylinders and combine them to a larger pulse, with a corresponding lower pressure behind the pulse. This low pressure actually helps drawing more air / fuel mixture into the cylinder from intake manifolds. This is so-called "reverse supercharging".

The reverse supercharging work best at a certain engine rev which is determined by the length of the exhaust pipe. The shorter the pipe, the lower rpm the reverse supercharging works. Of course, for any fixed exhaust pipes, the choose of working rpm is always a compromise.

Variable back-pressure exhaust usually provides 2 different lengths of exhaust pipes. The switching between them is via opening and closing of valves. Therefore it satisfy both the requirements of high speed and low speed output. Moreover, it helps complying EU’s noise regulations, which set upper limits according to speed.
 
Advantage:   Optimize high and low speed output; reduce noise at low speed.

Disadvantage:   Nil


Who use it ?   
•  Aston Martin Vanquish
•  Ferrari 550 Maranello, 360 Modena
•  Honda Integra Type R
•  Lamborghini Diablo 6.0
•  Mitsubishi Lancer Evo VII
•  Nissan Sentra SE-R Spec V, Maxima, Cima (Infiniti Q45)


จากลิงค์นี้

http://www.autozine.org/technical_school/engine/tech_engine_2.htm
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #579 เมื่อ: 08 มกราคม 2013, 20:51:25 »

Triton Plus 2500cc สั่งซื้อแบบสแตนเลส


ท่อไอเสีย VCE ที่ปรับเพิ่มและลดขนาดท่อโดยอัตโนมัติ (ควบคุมด้วยแรงดันไอเสียและตัวควบคุม) มีผลให้ไอเสียไหลออกเร็วและได้ปริมาณการไหลออกสูงกว่าในจังหวะเร่ง (ทำให้ได้แรงบิดสูงกว่าตั้งแต่รอบเครื่องต่ำๆ และได้แรงบิดเพิ่มต่อเนื่องเพราะมีการปรับขนาดท่อต่อเนื่อง) และค่อยๆ ผ่อนไอเสียขณะถอนคันเร่ง (ทำให้รอบเครื่องตกช้าลงความเร็วจะไม่ลดวูบ) ต่างกับท่อแต่งอื่นๆ ที่แม้ทำให้ช่วงรอบต่ำดีขึ้นก็เพียงค่าเฉลี่ย (ได้เพิ่มก็ยังไม่เต็มที่อยู่ดี) ช่วงถอนคันเร่งก็เป็นค่าเฉลี่ย (จึงยังเห็นว่ารอบเครื่องยังคงตกเร็วอยู่)
 บายๆ
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #580 เมื่อ: 09 มกราคม 2013, 20:29:46 »

Isuzu Dragon Eye 2500cc สั่งซื้อผ่านคุณชาตรีหาดใหญ่ (ส่งทางรถทัวร์ สยามเดินรถ)


ทีแรกผมเข้าใจว่าเป็น D-Max 2.5 แต่ไม่เป็นไรท่อสูตร VCE ไม่ได้เน้นรุ่นหรือยี่ห้อแต่ต้องตรงซีซีกันเท่านั้นครับ


ท่อไอเสีย VCE ปรับเพิ่มและลดขนาดรูท่อเองโดยอัตโนมัติ (ควบคุมด้วยแรงดันไอเสียและตัวควบคุม) มันทำงานของมันเอง มีผลให้ไอเสียไหลออกเร็ว (ที่ทำได้จริง) และได้ปริมาณการไหลของไอเสียออกสูงกว่าในจังหวะเร่ง (ทำให้ได้แรงบิดสูงกว่าตั้งแต่รอบเครื่องเดินเบา และได้แรงบิดเพิ่มต่อเนื่องทั้งช่วงรอบต่ำไปถึงรอบกลางและรอบปลาย เพราะมีการปรับขนาดรูท่ออย่างต่อเนื่อง) และค่อยๆ ผ่อนไอเสียขณะถอนคันเร่ง (ทำให้รอบเครื่องตกช้าลงความเร็วจะไม่ลดวูบ) ต่างกับท่อแต่งอื่นๆ ที่แม้ทำให้ช่วงรอบต่ำดีขึ้นก็เพียงค่าเฉลี่ย (ได้เพิ่มก็ยังไม่เต็มที่อยู่ดี) ช่วงถอนคันเร่งก็เป็นค่าเฉลี่ย (จึงยังเห็นว่ารอบเครื่องก็ยังคงตกเร็วอยู่)
 *กูรูวิชาการ*
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #581 เมื่อ: 11 มกราคม 2013, 11:28:18 »

Pajerosport 2.4 MT หม้อพักเดิมมีแคทติดแก๊ส LPG


 


คันนี้ สมาชิก www.pajerosport-thailand.com ก่อนมาติดตั้งเล่าให้ฟังว่าช่วงรอบเครื่องต่ำๆ มีอืดๆ บ้าง แต่ถ้าเลย 2000 รอบไปแล้วจะพุ่งดี สังเกตว่าต้องเลยความเร็ว 100 ขึ้นไปจึงจะพุ่ง
สำหรับคันนี้ ในกระทู้ก็ให้ข้อสงสัยว่าทำไมจึงไม่ค่อยมีใครมาให้ความเห็น แต่วันนี้มาติดตั้งแล้ว

ผลคร่าวๆ ….(จากเจ้าของรถน้องคนขับว่ามาผมก็ว่าไปตามนั้น) เขาบอกว่า ขับมันส์ขึ้น เร่งแซงทันใจขึ้น (เกียร์ 1 เกียร์ 2 พุ่งขึ้นชัดเจน) ตอนนี้ราวๆ สัก 70, 80 ก็จิ๊ดแล้ว (จากของเดิมที่ต้องราวๆ 100 ขึ้นไป )

ของเดิมเกียร์ 1 เวลาออกตัวต้องรีบกดคันเร่ง หลังติดตั้งท่อ VCE (เพิ่มเข้าไปเฉยๆ) แค่ปล่อยคลัชไปประมาณครึ่งหนึ่งยังไม่ได้กดคันเร่งรถก็ไหลออกไปแล้ว (ของเดิมจะไม่ไหล) ทำให้ขับง่ายขึ้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มกราคม 2013, 15:30:09 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #582 เมื่อ: 13 มกราคม 2013, 14:19:49 »

Toyota Sport Rider 3.0 AT ไม่มีแคท มีกล่องพ่วง (ติดตั้งท่อ VCE เพิ่่มเข้าไปเฉยๆ หน้าหม้อพัก)
 
 

 Sport Rider คันนี้ก็พุ่งตั้งแต่รอบเครื่องต่ำๆ อยู่แล้ว แต่อยากให้พุ่งขึ้นอีก



จากการที่ติดตั้งท่อ VCE เข้าไปทำให้บูสต์มาไวขึ้นมาเป็นราวๆ 1100 รอบ จากเดิมที่มาประมาณรอบที่ 1500 รอบ

มีเพียงท่อ VCE เท่านั้นที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แทนที่จะให้โล่งมากๆ (ที่เรี่ยวแรงลด) ก็ทำให้เป็นตรงกันข้าม รอบเครื่องสูงขึ้นก็ทำให้โล่งขึ้นเรื่อยๆ (ไม่ใช่ให้จินตนาการเอาเองว่ามันต้องโล่งขึ้นได้ แต่ด้วยลิ้นที่เปิดกว้างขึ้นได้ตามรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นด้วยแรงดันไอเสีย)

จึงให้เรี่ยวแรงพุ่งขึ้นดีกว่าเดิมในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และในรอบเครื่องกลางๆ (ที่ลิ้นเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ) จนไปสัมพันธ์กับของเดิมที่ดีอยู่แล้วที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ซึ่งไม่มีใครทำได้
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #583 เมื่อ: 14 มกราคม 2013, 11:46:56 »

ท่อไอเสีย VCE ส่งให้คุณไพจิตร จันทบุรี


Pajerosport 3.2, Camry 2.2

ติดตามรายละเอียดท่อสูตร VCE เพิ่มเติมที่นี่ครับ
http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3-VCE/444515408918414

]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[

ท่อสูตร VCE อาจจะไม่สวย แต่แค่ติดตั้งเพิ่มก็ได้แรงบิดเพิ่มตั้งแต่รอบเดินเบา ทุกเกียร์ลากเกียร์ได้ยาวขึ้น (จะเร่งจะแซงแทบไม่ต้องเชนเกียร์ไม่ต้องคิ๊กดาวน์ ) ความเร็วต้นและกลางพุ่งปลายก็พุ่งอีก เวลาถอนคันเร่งยังไหลไปต่อ (ทดสอบง่ายมาก ด้วยเกียร์ 2 เมื่อทำได้จริง รถปิ๊คอัพเกียร์ MT จากของเดิมลากได้ 2500-2600 ตื้อๆ จะลากได้ยาวขึ้นถึง 3000 หรือถึง 3500 รถเก๋งจากของเดิมลากได้ 2500-2600 ตื้อๆ ก็ลากได้ถึง 4000 หรือมากกว่า)

ในขณะที่ท่อแต่งอื่นๆ ซื้อไปแล้วจะได้ตามข้างบนหรือไม่ ซื้อไปแล้วไม่ได้ตามที่ว่าแล้วจะเหมารวมว่าก็คงจะเหมือนกันไม่ได้ เพราะผมเตือนคุณแล้วว่า ท่อแต่งอื่นๆ เป็นแบบอั้น หรือ โล่ง ที่ทำงานแบบคงที่ทั้งนั้น  (ถ้าได้ช่วงหนึ่งก็จะเสียช่วงหนึ่ง) แบบอั้นคงที่ก็จะได้ช่วงรอบต่ำดีขึ้น (แต่ก็ไม่ได้เต็มที่เพราะจะทำให้ดีเต็มที่ก็ไม่ได้ปลายก็จะแย่ลงไปอีก) สังเกตจากเวลาวิ่งทางเป็นเนินจะไม่ค่อยไหวต้องเร่งรอบสูง เวลาถอนคันเร่งรอบจะตกวูบ แบบโล่งก็ช่วงรอบต่ำแย่กว่าเดิม ไปแต่เสียงความเร็วไม่พุ่งตาม (เกียร์ AT รอบขึ้นช้าเปลี่ยนเกียร์ช้า ใช้รอบสูง ระหว่างเกียร์ไม่ราบรื่น เกียร์ MT ลากเกียร์รอบขึ้นช้าและหมดเร็ว) ช่วงกลางดีขึ้นรอบสูงดีขึ้นแต่ปลายสุดๆ ก็ไม่ค่อยไหล ไม่สามารถลากเกียร์ได้ยาวขึ้น ไม่หนีความจริงเหล่านี้

ในขณะที่ท่อสูตร VCE เป็นแบบวาริเอเบิล มันคงละเรื่องกันเลย มันทำงานปรับขนาดรูท่อให้เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #584 เมื่อ: 15 มกราคม 2013, 13:43:04 »

ผลการทดสอบ Mazda 2 MT  GEAR 2
Gear 2 ระบบไอเสียเดิมๆ ลากรอบเครื่องได้แค่ 2500 รอบ



ติดตั้งท่อสูตร VCE (เพิ่มเข้าไปเฉยๆ กับระบบไอเสียเดิมๆ ) Gear 2 ลากรอบเครื่องได้ 4400-4700 รอบ





\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\

ผลการทดสอบ Mazda 2 MT  GEAR 2
Gear 2 ระบบไอเสียเดิมๆ ลากรอบเครื่องได้แค่ 2500 รอบ



ติดตั้งท่อสูตร VCE (เพิ่มเข้าไปเฉยๆ กับระบบไอเสียเดิมๆ ) Gear 2 ลากรอบเครื่องได้ 4400-4700 รอบ




 (รถปิ๊คอัพ Diesel Turbo  เกียร์ 2 จากเดิมลากได้ประมาณ  2500-2600  รอบ ก็จะลากได้ 3000 กว่าๆ ถึง 3500 รอบ หรือถึง  4000 รอบ /แล้วแต่รุ่น/ อันนี้ไม่ได้ดูจากไดโนแต่ดูจากเข็มวัดรอบขณะทดสอบบนถนน)


ผลการทดสอบ จะเห็นว่า เมื่อติดตั้งท่อสูตร VCE (เพียงติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ เท่านั้น) สามารถลากรอบได้สูงขึ้น

แต่ละเกียร์จะลากรอบได้สูงขึ้น (เกียร์ 1, 2,3 ความแตกต่างของการลากรอบจะมากกว่าเกียร์ 4,5 ตามลำดับ)

เมื่อลากรอบได้สูงขึ้นปลายจึงไม่อั้นแต่ดีกว่าเดิม

ได้แรงบิดสูงขึ้น ได้แรงม้าสูงขึ้น ได้ความเร็วปลายเพิ่มขึ้น ( ได้แรงบิดช่วงลากเกียร์เพิ่มขึ้น  10.3  Nm  และแรงม้าสูงสุดเพิ่มขึ้นช่วงลากเกียร์  40.1 HP) ได้เพิ่มทุกคันไม่ว่าเบนซิน แก๊ส หรือ ดีเซลเทอร์โบ (กรณีวัดที่เกียร์ 4 / รอบเครื่องที่ลากได้จะแตกต่างกันน้อยกว่าเกียร์ต่ำๆ /ก็จะได้แรงม้าเพิ่มประมาณ 3 HP หรือถ้าใช้กับระบบไอเสียโล่งมากๆ จะได้ถึง 9HP)

ที่สำคัญ การเร่งแซงและการทำความเร็วในแต่ละช่วงความเร็วจะดีขึ้น  (เพราะได้แรงบิดและแรงม้าในช่วงลากรอบได้สูงกว่า)

สำหรับเกียร์ AT จากแรงบิดและแรงม้าเพิ่มก็จะทำความเร็วได้ดีขึ้นทุกช่วง และทำความเร็วช่วงปลายได้เพิ่มเช่นกัน  ซึ่งในขณะที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ลิ้นในท่อ VCE ที่หรี่ลงมาเหลือขนาดรูท่อเล็กๆ ก็จะเพิ่มแรงบิดช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ได้ดีกว่า  (เพิ่มขึ้นทั้งเกียร์ AT และ MT)

AT ที่ปกติปล่อยเบรครถก็เริ่มไหลก็จะไหลแรงขึ้นและจะไหลไปต่อเนื่องไม่วูบ (รถบางรุ่นที่เดิมแค่ปล่อยเบรคไม่เหยียบคันเร่งรถไม่ไหลก็จะไหลออกไปได้)  เกียร์ MT จากเดิมรถบางรุ่นแค่ปล่อยคลัชถ้าไม่เหยียบคันเร่งช่วยรถไม่ไหลก็จะกลายเป็น แค่ปล่อยคลัชไม่ถึงครึ่งยังไม่ได้เหยียบคันเร่งรถก็ไหลออกไปแล้ว

(ท่อสูตร VCE เทคนิคลิ้นแปรผัน/เทคโนโลยี่ที่มีใช้ในรถสปอ์ตขั้นนำฝีเท้าจัดๆ/ มีลิ้นปรับขนาดรูท่อไอเสียโดยอัตโนมัติ)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.facebook.com/pages/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3-VCE/444515408918414

นั่นคือ ชัดเจน ท่อสูตร VCE แรงบิดเพิ่มตั้งแต่รอบเครื่องต่ำมากๆ และทำความเร็วช่วงกลาง และลากช่วงปลายได้ดีกว่าแน่ๆ ไม่ต้องลุ้นหรือไปถามใครๆ (ซึ่งส่วนหนึ่งก็จะให้ข้อมูลที่ผิดพลาด) / พี่พร ท่อสูตร VCE 0851423903
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 สิงหาคม 2014, 19:51:43 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #585 เมื่อ: 16 มกราคม 2013, 11:40:22 »

ท่อแทนแคท ท่อแทนพักกลางมีหลายเจ้า คุณพอใจอันไหนเลือกเอาครับ

แต่ที่ไม่ควรเกิดขึ้นก็คือ บางคนเข้าใจผิดคิดว่าท่อเหล่านั้นดีกว่าท่อสูตรลิ้นแปรผัน VCE  เข้าใจผิดว่าท่อที่เป็นระบบช่องทางเดินแบบตายตัวนั้นดีกว่าช่องทางเดินไอเสียแบบปรับขนาดรูท่อได้แบบ VCE

หลายคนไม่เชื่อว่า เมื่อทำให้ช่วงรอบต่ำดีที่สุดแล้วจะสามารถทำให้ช่วงรอบปลายดีขึ้นด้วยได้ (กรณีท่อสูตรลิ้นแปรผัน VCE แม้ติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ ทั้งๆ ที่กับระบบไอเสียเดิมซึ่งด้วยสามัญสำนึกเราก็คิดว่าขนาดรูท่อก็ไม่ได้ถูกทำให้ขยายกว้างขึ้นไปจากระบบไอเสียเดิมอยู่ดี แล้วทำไมจึงลากรอบเครื่องได้มากขึ้นขนาดนั้น อันนี้ตอบไม่ได้ชัด แต่ทั้งการใช้งานจริงและบนไดโน่ก็เป็นเช่นนั้น)

ไม่เถียงถ้าท่อแทนแคท ท่อแทนพักกลางเหล่านั้นซึ่งเป็นระบบตายตัว (ถึงจะมีช่องทางเป็นเกลียววนให้ไอเสียหมุนวนก็ไม่อาจจะหมุนวนไอเสียได้ทันในรอบสูงมากๆ จึงเป็นสาเหตุให้ความเร็วปลายลดลงจากเดิม) ซึ่งยังเป็นระบบเฉลี่ยระหว่างรอบเครื่องต่างๆ  (ได้ต้นก็ไม่เต็มที่ปลายก็มีปัญหา) ที่ต้องทำใจว่าเมื่อได้ต้นดีขึ้นก็ต้องยอมให้ปลายหายไปบ้าง

โดยที่หลายๆ คนที่บอกว่ายอมให้ปลายหายๆ ไปบ้างนั้นแต่ไม่รู้ความจริงว่า ไม่ใช่อยู่ๆ ปลายก็หายไปเฉยๆ  แต่มันจะเริ่มไม่ดีมาตั้งแต่ความเร็ว 80-90 ขึ้นมาแล้ว ก็จะวิ่งไม่ดี สิ้นเปลืองเชื้อเพลิง (ลากเกียร์ได้จำกัดขึ้นเร่งไม่ขึ้น) และเครื่องร้อน (เวลาต้องเร่งรอบสูงๆ เช่นทำความเร็วสูงยาวๆ หรือขึ้นเขาแต่เร่งไม่ขึ้นเพราะมีอะไรไปอั้นๆ ไว้)

อย่าคิดว่าไม่ค่อยได้ใช้ความเร็วสูงบ่อยๆ แต่หารู้ไม่ว่าแม้เวลาขับในเมือง เวลาคิ๊กดาวน์หรือเชนเกียร์ก็ต้องดึงกำลังมาจากการลากรอบสูงๆ อยู่ดี ถ้าไม่สามารถลากเกียร์ได้เยอะกว่าเดิม (ได้แรงบิดแรงม้าเยอะกว่าเดิมในช่วงลากเกียร์) แล้วจะเอาพลังมาจากไหนในการเร่งแซงละครับ
 *กูรูวิชาการ*
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #586 เมื่อ: 17 มกราคม 2013, 19:22:41 »

กล่องพัสดุที่ส่งไป
 


Isuzu All New D-Max3.0 AT เชียงใหม่ ที่สั่งซื้อไปเมื่อวันก่อน รีวิวไว้ใน http://www.newdmax-club.com/index.php/topic,21507.30.html
/ขอบคุณครับ/พี่พร {ในวงเล็บพี่พรได้อธิบายเพิ่มเติมครับ}


“All new D-max Hi 4D ZP 3.0AT  
     All new D-max Hi 4D ZP 3.0 AT เชียงใหม่ครับ มาแชร์การติดตั้งท่อสูตร VCE แต่เดิมที่ผมได้ไปเปลี่ยนท่อแทนแคทมา ซึ้งจะทำให้รอบมาไวและในการกดคันเร่งช่วงออกตัวจะรู้สึกว่าคันเร่งเบาจึงต้องกดไปให้รอบเครื่องขึ้นไปที่ประมาณ 1800 - 2200 รอบถึงจะได้แรงบิดที่จะทำให้เข็มความเร็วเพิ่มขึ้นตามลำดับ
และถ้าเราขับรถตอนที่รถเริ่มติด ({{จังหวะถอนคันเร่ง/พี่พร)}) จะทำให้รอบเครื่องสวิงขึ้นลงเร็วมากพร้อมกับเข็มวัดความเร็วก็จะลดลงเร็วเช่นกัน ทำให้เราต้องคอยเติมคันเร่งอยู่ตลอด ( ขับในแบบที่ไม่ได้เน้นการลากเกียร์ /{{หรือขับแบบไหลๆ/พี่พร)})

พอได้มาลองติดตั้งท่อสูตร VCE เข้าไปที่หน้าหม้อพักไอเสีย ( เอาไว้เดี๋ยวจะเอารูปมาลงให้ดูอีกที่ครับ )

ความรู้สึกแรกที่รู้สึกก็คือ เสียงที่ออกมาจากท่อนั้นจะวี๊ดแน่นขึ้นกว่าเดิม และลองได้ขับดูก็จะเห็นได้เลยว่าการออกตัวทำได้ดีขึ้นโดยที่ไม่ต้องกดคันเร่ง รถก็จะมีแรงไหลมากขึ้นกว่าเดิม
โดยเฉพาะตอนที่ใช้เกียร์ถอยหลัง จะมีแรงดึงออกตัวมากขึ้นทั้งที่ยังไม่ได้กดคันเร่ง

พอมาถึงตอนขับขี่ปกติรอบในการเปลี่ยนเกียร์จะมาอยู่ที่ 1400 - 1800 รอบ ในการขับทั่วๆไป ซึ่งแรงบิดจะมาในรอบที่ต่ำกว่าเดิมมาก แต่ที่เพิ่มมาอีกคือความเร็วจะเพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ้งจะต่างจากตอนที่ใส่แต่แทนแคทที่ความเร็วจะเพิ่มขึ้นก็ต้องที่รอบขึ้นไปที่ 1800 รอบขึ้นไป
ก็คือว่าจะได้แรงบิดในรอบที่ต่ำลงและได้ความเร็วเพิ่มขึ้นมาด้วยถือว่าเป็นผลดีมาก


ตอนขับใช้งานนั้น เวลาปล่อยคันเร่งแล้วความเร็วจะค่อยๆ ลดลงทำให้ไม่ต้องเติมคันเร่งบ่อยๆ ไม่ได้ลดลงเร็วเหมือนก่อนหน้านี้

และที่ดีอีกอย่างก็จะเป็นตอนที่มีการเปลี่ยนเกียร์นั้นจะไม่มีการกระตุกในช่วงของการเปลี่ยนเกียร์ ( ของผมเป็นแบบเกียร์ AT ) {{ของเดิมจะมีอาการวูบเล็กน้อยระหว่างเกียร์เนื่องจากแรงบิดลดลงในช่วงนั้น/พี่พร}}

ยังเหลือทดสอบการประหยัดน้ำมันในการใช้งานปกติ แล้วค่อยมารีวิวอีกที่ครับ “/ Chatcha / สมช. www.newdmax-club.com
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มกราคม 2013, 15:32:29 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #587 เมื่อ: 18 มกราคม 2013, 10:21:37 »

พี่พรมาอธิบายเพิ่มเติม

จากรีวิวของคุณ Chatcha สมาชิก www.newdmax-club.com
ข้อความที่ว่า

“แต่เดิมที่ผมได้ไปเปลี่ยนท่อแทนแคทมา ซึ้งจะทำให้รอบมาไวและในการกดคันเร่งช่วงออกตัวจะรู้สึกว่าคันเร่งเบาจึงต้องกดไปให้รอบเครื่องขึ้นไปที่ประมาณ 1800 - 2200 รอบถึงจะได้แรงบิดที่จะทำให้เข็มความเร็วเพิ่มขึ้นตามลำดับ”

ก่อนมาทำ (ใส่ท่อ VCE เพิ่มเข้าไปเฉยๆ) คุณ Chatcha ได้ไปเปลี่ยนแทนแคทมา สังเกตว่ารอบมาไวขึ้น (ในความหมายนี้ ที่เขาพูดกันบ่อยๆ  เวลากดคันเร่งคันเร่งจะเบากว่าเดิม ทีนี้ คันเร่งที่เบามากในช่วงรอบต่ำมากๆ นี่ถ้าคุณเอารถขึ้นไดโนจะเห็นทันทีเลยว่าแรงบิดในช่วงรอบต่ำที่คันเร่งเบาๆ นั้นจะลดลงไปจากเดิม กดคันเร่งแล้วรอบมันกวาดเร็ว แต่รอบเครื่องพุ่งนำหน้าไปแต่ความเร็วไม่ได้พุ่งเร็วตามแต่จะพุ่งตามไปช้าลงไปจากเดิม สังเกตจาก รอบตวัดขึ้นไปค้างเติ่งอยู่แต่รถจะนิ่งอยู่นานพักหนึ่งก่อนที่จะค่อยๆ รู้สึกตัว /นิ่งอึ้งยิ่งกว่าตอนมีแคทอยู่ )


“ประมาณ 1800 - 2200 รอบถึงจะได้แรงบิดที่จะทำให้เข็มความเร็วเพิ่มขึ้นตามลำดับ”
สังเกตว่า ต้องได้รอบประมาณ 1800 ขึ้นไปจึงจะรู้สึกว่ารถมีแรง และผมเข้าใจว่าพอรอบครื่องพุ่งผ่าน2200 รอบ รถจะพุ่งแรงขึ้นกว่าตอนมีแคทอยู่ อันนี้แลกกัน ตามหลักวิศวกรรมท่อไอเสีย เมื่อโล่งขึ้น Back Pressure ลดลง แรงบิดช่วงรอบต่ำจะลดลงแต่ช่วงรอบกลางไปทางสูงจะดีขึ้น

จังหวะขับรถตามๆ กันไปความเร็วค่อนข้างคงที่ เมื่อรถเข้าใกล้รถคันหน้าเราจะถอนคันเร่ง จังหวะนั้น กับรถสภาพเดิมโรงงานมีแคทอยู่ก็มีอาการรอบตกเร็วและความเร็วที่ไหลไปเรื่อยๆ จะตกเร็ว ยิ่งแคทโล่งขึ้น ในความเร็วช่วงต่ำ (60 ถึง 70 ลงมา) ก็จะยิ่งตกเร็ว ยิ่งวูบแบบหัวทิ่ม ทำให้ไม่ราบรื่น “จะทำให้รอบเครื่องสวิงขึ้นลงเร็วมากพร้อมกับเข็มวัดความเร็วก็จะลดลงเร็วเช่นกัน ทำให้เราต้องคอยเติมคันเร่งอยู่ตลอด”

กลับกันเมื่อคุณติดตั้งท่อ VCE เสริมเข้าไปในระบบ จังหวะที่ถอนคันเร่ง รถยังไหลไปอยู่ที่ความเร็วเดิมครู่หนึ่งก่อน ก่อนจะค่อยๆ ลดลง และบางครั้งเราต้องกดเบรกเมื่อเห็นว่าเพียงเราถอนคันเร่งยังไม่พอรถยังพุ่งไปใกล้คันหน้า พอเราปล่อยเบรก รถยังไหลไปต่อ ยังตามคันหน้าไปที่ความเร็วเท่าๆ กับคันหน้ายังไหลไปยังไม่ต้องเติมคันเร่ง คุณยังมีเวลาอยู่อีกครู่หนึ่ง (ถ้าแคทโล่งไปแล้วในช่วงความเร็วต่ำๆ ต้องรีบเติมคันเร่งตั้งแต่ทีแรกที่ถอนคันเร่ง ทำความเร็วก็ไม่ลื่นไหล วูบๆ วาบๆ รถจะไม่พุ่งทันทีที่กดคันเร่ง/ถ้ามีแคทถ้าความเร็วระดับปานกลางก็พอจะไหลๆ ได้ดีใช้ได้อยู่แต่ก็หมดเร็วกว่ามีท่อ VCE ยิ่งความเร็วไม่สูงก็ยิ่งต่างกันมากและต้องรีบเติมคันเร่งหลังจากเบรคเหมือนกัน)

 นี่คือความแตกต่างที่ทำให้ขับรถสบายขึ้นไหลๆ ขึ้นไม่เครียดกับการที่ต้องรีบเติมคันเร่ง (และมีผลต่อการประหยัดเชื้อเพลิงด้วยครับเมื่อถอนคันเร่งรถยังไหลแรงกว่าไหลนานกว่า ไม่ต้องเติมคันเร่งบ่อย และเมื่อกดคันเร่งรถก็พุ่งตามเท้าดีกว่าและไม่ต้องกดลึกก็มาแล้วครับ)

ส่วนใหญ่ก่อนที่จะเป็นลูกค้าท่อ VCE เขาจะคิดกันว่าเป็นไปได้อย่างไร ซึ่งคำตอบคือ เมื่อถอนคันเร่ง ลิ้นในท่อ VCE มันจะค่อยๆ หรี่ลงมา แรงบิดจะไม่ลดฮวบทันทีแต่จะยังคงรักษาแรงบิดในระดับเดิมไว้ก่อนจะค่อยๆ ลดลงมาครับ/พี่พร 0851423903
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #588 เมื่อ: 19 มกราคม 2013, 10:26:48 »




All New D-Max 3.0 AT ภาพขณะติดตั้งท่อ VCE ที่เชียงใหม่ครับ ภาพโดยคุณ Chatcha จาก  www.newdmax-club.com

กล่องพัสดุที่ส่งไป
 


]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[

เมื่อติดตั้งท่อ VCE (เพียงติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ) เกียร์ AT จะเปลี่ยนเกียร์ราบรื่นขึ้น ระหว่างเกียร์จะต่อเนื่องไม่กระตุก (ความเร็วจะพุ่งไปอย่างต่อเนื่องไม่ชะลอ) เกียร์ MT ช่วงระหว่างเกียร์แทนที่ความเร็วจะชะงักหรือความเร็วอยู่ที่เดิมก็จะพุ่งขึ้นไป ถ้าลากเกียร์จะลากเกียร์ได้ยาวขึ้น (ช่วงที่ลากเกียร์ได้แรงบิดและแรงม้าเพิ่ม รถจะพุ่งเพิ่มขึ้นไปอีก) ถ้ารถสเป็คเดียวกัน ทางราบเหมือนเราขับลงเนินนิดๆ ทางลาดชันขึ้นเหมือนเราวิ่งทางราบ ทั้งขับได้คล่องตัวลื่นไหลขึ้นและประหยัดขึ้นครับ / พี่พร ท่อ VCE 0851423903
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มกราคม 2013, 15:31:39 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #589 เมื่อ: 20 มกราคม 2013, 10:58:51 »

All New Ford Ranger 2200cc AT
 

ส่งทางรถทัวร์ สยามเดินรถ ลงสงขลา ครับ
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #590 เมื่อ: 21 มกราคม 2013, 10:05:49 »

หลังจากลังเลอยู่พักนึง จึงลองกับรถตัวเอง (Pa 2.4 เบนซิน LPG) หลังจากติดตั้งVCE มาได้เกือบสัปดาห์ขอรายงานผลดังนี้
ออกตัวปกติถอนครัชแล้วต้องเหยียบคันเร่งด้วย หลังจากติด VCE แล้วแค่ปล่อยครัชเบาๆ รถเริ่มไหลแล้ว
จากนั้นช่วงเลี้ยวซ้าย...ขวา ปกติออกด้วยเกียร์2 ออกไม่ค่อยได้ เครื่องจะกระตุกต้องเปลี่ยนเป็นเกียร์ 1   แต่หลังจากติด VCE ออกเกียร์ 2 ได้เลย

ช่วงกลาง 60-80 ปกติกำลังไม่ค่อยมีเหยียบขยี้แล้วก็ไม่ค่อยพุ่ง  แต่หลังจากติด VCE แล้วปัญหาดังกล่าวหมดไป เข็มไมล์ไต่ขึ้นเร็วกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด  แต่ช่วงปลาย 140-160-170 ยังไม่ได้ทดสอบ

สุดท้ายช่วงเบาถอนคันเร่งแล้วรอบยังคงอยู่  ความเร็วรถตกลงช้ามาก

ข้อเสีย คือราคาค่อนข้างแรงและตัดสินใจยากเนื่องจากข้อมูลในการตัดสินใจน้อย  และรูปแบบก็ไม่น่าดูตรงตะแกรงที่ใส่แม่เหล็กแต่ถ้าไม่สังเกตุคงไม่เป็นไร    
ต้องขอบคุณพี่พร เจ้าของไอเดียด้วยครับ/Dorn.U / สมช. www.pajerosport-thailand.com

ตามลิงค์นี้ http://www.pajerosport-thailand.com/forum/index.php?topic=10368.msg427589

 
ออลนิว ปาเจโร่สปอร์ต 2.4 MT LPG ป้ายแดงคันข้างบนครับ / ขอบคุณครับ/พี่พร (ต้องเป็นสมาชิกเว็บบอร์ด www.pajerosport-thailand.com ก่อนจึงจะสามารถเปิดอ่านกระทู้ได้ครับสำหรับเวบบอร์ด www.pajerosport-thailand.com)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24 มกราคม 2013, 15:29:31 โดย phorn » บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #591 เมื่อ: 22 มกราคม 2013, 21:06:14 »

All New Ford Ranger คันนั้นที่ติดตั้งท่อ VCE ไปแล้ว (ประมาณ 3 เดือนมาแล้ว)
 
ที่สั่งซื้อผ่านคุณ ชาตรี หาดใหญ่

บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #592 เมื่อ: 23 มกราคม 2013, 10:25:37 »


Pajerosport 2.5 EMS ถึงพรุ่งนี้ครับ
รหัส EJ 7396 7198 1 TH นครพนม

บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #593 เมื่อ: 24 มกราคม 2013, 11:58:32 »

ภาพที่ไม่ขึ้นจะมาทะยอยอัพขึ้นใหม่วันหลังครับ
Tiger 2.5 ของคุณชาตรี (รถที่จอดข้างหน้าคุณชาตรีคือ All New Ford 2.2 คันข้างบนครับ)

คุณชาตรีบอกว่า หลังจากติดตั้งท่อ VCE ไปแล้วทำความเร็วจัดมากตั้งแต่ออกตัว (แทบจะกระโดดออกไปเลย)

ท่อสูตร VCE รับประกันว่าจัดจ้านแน่นอน รถปิ๊คอัพจะลากเกียร์ได้ยาวขึ้นแน่ (จาก 2500-2600 รอบต้องได้ 3000 รอบขึ้น รถเก๋งจาก 2500-2600 รอบต้องได้มากกว่า 4000 รอบในเกียร์ MT เกียร์ AT ช่วงความเร็วสูงๆ เวลาคิ๊กดาวน์ที่เคยได้แค่ 4000 รอบนิดๆ จะได้ถึงเกือบๆ 5000 รอบ)

ถ้าขับเหมือนเดิมจะประหยัดขึ้นนอกจากจะทันอกทันใจกว่า เพราะเหยียบคันเร่งน้อยลง ถอนคันเร่งรถยังไหลดีกว่า ไม่ต้องเชนเกียร์บ่อย ไม่ต้องคิ๊กดาวน์บ่อย กดเบาๆ ก็เร่งได้ดีพอแล้ว (เพราะแรงบิดดีกว่าเดิมทั้งช่วงรอบต่ำและรอบสูง)
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #594 เมื่อ: 26 มกราคม 2013, 13:45:06 »

Soluna Vios AT ระบบไอเสียเดิม
 

ติดตั้งท่อ VCE ช่วงก่อนจะออกปลายท่อ
 
/////////////////////////////////////////////////////\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\
เพิ่มอัตราเร่งเวลาคิ๊กดาวน์ และเพิ่มอัตราเร่งเวลาออกตัวแรงๆ ให้พุ่งมากขึ้น (ลดช่วงแรกๆ ที่แรงบิดยังไม่มาให้เหลือสั้นลง) เพิ่มอัตราเร่งเวลาเบรกแล้วไปต่อในช่วงความเร็ว 40 ถึง 80 ให้ลื่นไหลมากขึ้น



//////////////////////////////////////

D-Max 3.0 AT

ไปส่งให้ที่วัดสายไหมครับ

D-Max 3.0 AT ผมเคยขับ สังเกตว่าเมื่อความเร็วมากกว่าร้อยขึ้นไปจะพุ่งใช้ได้ แต่ความเร็วต่ำกว่านั้นจะรอรอบเล็กน้อย (อาการคันเร่งหยุ่นๆ กดคันเร่งกับผ่อนคันเร่งความเร็วก็ไม่เปลี่ยนแปลง) ช่วงที่รอรอบ ถ้าพยายามกดคันเร่งรถก็จะไม่พุ่งขึ้นทันที จะขับรถแบบไหลๆ กดคันเร่งแบบเบาๆ จะไม่ได้ผล

[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]

ท่อไอเสีย VCE แม้ติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ กับระบบไอเสียเดิมโรงงานก็ได้ผล
โดยดูจากผลการทดสอบบนไดโน่ก็เห็นชัดเจนว่า นอกจากให้แรงบิดช่วงรอบเครื่องต่ำๆ เพิ่มขึ้น ยังให้แรงบิดช่วงรอบกลาง และรอบสูงบางช่วงเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังให้แรงบิดและแรงม้าช่วงปลายเพิ่มขึ้น สามารถลากเกียร์ได้ยาวขึ้น

และเมื่อขับขี่ใช้งาน จากเดิมรถเกียร์ MT คันที่ทดสอบ (รุ่นที่ทดสอบ) เวลาออกตัวแค่ปล่อยคลัชไม่เหยียบคันเร่งรถจะไม่ไหลออกตัว แต่เมื่อติดตั้งท่อไอเสีย VCE แล้ว แค่ปล่อยคลัชไม่ถึงครึ่ง รถก็เริ่มไหลออกตัวไปแล้ว และแต่ละเกียร์ก็สามารถลากรอบได้ยาวขึ้น

เกียร์ AT รถบางรุ่น เวลาออกตัวแค่ปล่อยเบรกไม่กดคันเร่งรถไม่ไหลออกตัว เมื่อติดตั้งท่อ VCE (แค่เพิ่มเข้าไปเฉยๆ ในระบบ) รถคันนั้น (รุ่นนั้น) ก็แค่ปล่อยเบรคยังไม่หมดรถก็เริ่มไหลออกตัวไปแล้ว
สำหรับรถเกียร์ AT ทั่วไปที่แค่ปล่อยเบรกไปเล็กน้อยรถก็เริ่มไหลออกตัวไปแล้ว สังเกตว่าถ้าเรารอให้ปล่อยเบรกจนหมดแล้วค่อยกดคันเร่งตามไปเบาๆ รถจะเคลื่อนตัวไม่ราบรื่น จะมีการรอรอบช่วงที่เข็มวัดรอบกวาดไปจากเดินเบาขึ้นไปยังไม่ถึง 1000 รอบ ทำให้รถไหลออกตัวแล้วกระตุกเมื่อแรงบิดเริ่มมา และช่วงระหว่างเปลี่ยนเกียร์จะมีอาการกระตุกเล็กน้อย รวมทั้งช่วงความเร็วที่ต่ำกว่าร้อยจะมีอาการรอรอบมากกว่าช่วงที่ความเร็วมากกว่าร้อย

ต่างจากเมื่อติดตั้งท่อ VCE เข้าไป (เพียงติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ) รถเกียร์ AT ทั่วๆ  ไปที่เวลาออกตัวแค่ปล่อยเบรกนิดๆ รถก็ไหลออกตัวไปได้ดี แต่มีอาการรอรอบถ้าเรากดคันเร่งเบาๆ ตอนออกตัวจะหายไป จะดีขึ้น จะราบรื่นขึ้นแม้เรากดคันเร่งเบาๆ รถก็มีอาการตอบสนอง (ไม่ใช่ต้องรอให้กดลึกก่อนจึงจะตอบสนอง) แรงบิดก็จะมาแบบต่อเนื่องทำให้รอยต่อช่วงปล่อยเบรกกับช่วงกดคันเร่งเบาๆ มีความราบรื่นไม่มีอาการกระตุก  ช่วงกระตุกระหว่างเกียร์จะราบรื่นขึ้น อาการรอรอบในช่วงความเร็วต่ำกว่าร้อยจะลดน้อยลง (เร่งได้ทันใจใกล้เคียงเกียร์ MT) ไม่ต้องกดคันเร่งลึกแรงบิดก็มา เร่งได้ทันใจใกล้เคียงกับความเร็วที่เกินร้อยขึ้นไป

ที่ทำได้แบบนี้ (ทำได้บนไดโน่และการใช้งานจริง) เพราะท่อไอเสีย VCE  ใช้เทคนิค ลิ้นควบคุมไอเสียสัมพันธ์กับรอบเครื่อง แรงบิดจึงดีขึ้นทั้งช่วงรอบตำมากๆ และรอบกลาง รวมทั้งช่วงรอบสูงบางช่วง และช่วงรอบเครื่องสูงสุด

ต่างจากท่อไอเสียอื่นๆ ที่ถ้าเน้นที่รอบต่ำก็จะได้ผลเพียงเล็กน้อย แต่ต้องแลกกับช่วงรอบกลางไปทางสูงที่ไม่ดีเหมือนเดิม
หรือท่อไอเสียที่เน้นช่วงรอบกลางก็ให้ช่วงรอบต่ำไม่ดีเท่าเดิม
ต้องแลกกับบางช่วงได้เพิ่มขึ้นแต่จะเสียบางช่วงไป


อย่าไปเชื่อคำโฆษณาโดยไม่ดูหลักการทำงานจริงๆ ซึ่งก็เป็นระบบตายตัวทำงานคงที่ ที่ถ้าบีบช่องทางเดินไอเสียมากเพื่อให้ช่วงรอบต่ำดีขึ้นช่วงรอบสูงก็จะอั้น ถ้าให้โล่งมากขึ้นเพื่อไม่ให้ช่วงรอบสูงอั้นช่วงรอบต่ำก็เสียแรงบิดไป ไม่มีจุดที่ดีที่สุดมีแต่จุดที่เฉลี่ยๆ กันไป

ท่อไอเสียเหล่านั้นจึงไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปที่ต้องได้บางช่วงแต่เสียบางช่วงไม่ได้อย่างใจ อย่าเชื่อคนที่กล่าวเท็จ หรือ การโฆษณาที่ขัดแย้งกับทฤษฎีเรื่องท่อไอเสีย ในความจริงที่ว่าโล่งได้ช่วงรอบสูงแต่เสียรอบต่ำ อั้นได้ช่วงรอบต่ำแต่เสียช่วงรอบสูง ท่อไอเสียเหล่านั้นแม้ดูเผินๆ บางแบบเหมือนจะไม่ใช่แบบคงที่ แต่ดูให้ดีๆ เป็นเกลียวเหมือนกันแต่จะทำเป็นร่องไว้ (คล้ายแบบเกลียวแต่ทำเป็นร่อง) ซึ่งถ้ามีการอั้นที่ช่วงรอบต่ำช่วงรอบสูงก็จะอั้นเช่นกัน
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #595 เมื่อ: 27 มกราคม 2013, 09:17:01 »

Tiger  3.0 ดันรางล้อโต
 

ท่อ VCE เมื่อติดตั้งไปแล้วจะสังเกตเห็นผลชัดเจนมากยิ่งขึ้นเมื่อขับรถผ่านทางที่เป็นเนิน หรือ ขับขึ้นห้างที่ทางค่อนข้างชันช่วงแคบๆ เพราะแรงบิดที่ดีขึ้นในช่วงรอบเครื่องต่ำมากๆ จะทำให้รถไม่วูบเร็วในช่วงที่ปล่อยเบรกแล้วไปเหยียบคันเร่ง และใช้รอบเครื่องต่ำๆ (ต่ำกว่าเดิม) ก็สามารถขึ้นทางชันในห้างได้ ผ่านทางชันก็ยังมีเรี่ยวแรงเร่งความเร็วต่อได้ดีกว่าเดิม
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #596 เมื่อ: 29 มกราคม 2013, 10:56:52 »

 Honda Freed 1.5AT เดิมๆ (ติดตั้งท่อสูตร VCE เข้าไปเฉยๆ หลังพักกลาง)
 
คันนี้เคยติดตั้งท่อ VCE ไปแล้วกับ Toyota Innova คันนั้นทำมาทุกอย่างแล้ว กล่องพ่วงก็มีแต่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ก็ได้เพิ่มไม่เท่าไหร่
 
เขาบอกว่า Freed คันนี้แฟน (ผู้หญิง) เป็นคนขับ เคยบ่นว่าเวลาขึ้นห้างเยาฮันจะมีอาการไม่ค่อยไหว 
ส่วนนตัวเขาเองเห็นว่า Freed ช่วง 60-90 จะมีอาการอืดๆ บ้าง และช่วง 120 ขึ้นไปจะขึ้นช้า


หลังติดตั้งท่อสูตร VCE อาการอืดๆ ในช่วง 60-90 ดีขึ้นหายอืด และพบว่า ช่วงต่อเกียร์ระหว่าง 1 ไป 2 ที่ของเดิมจะห้อยๆ เล็กน้อยนั้นได้หายไปด้วย แต่ยังไม่ได้ลองช่วง 120 ขึ้นไป (แต่เมื่อถามแฟนผู้หญิงเขาก็เฉยๆ /คงต้องรอให้ขึ้นเยาฮันอีกครั้งก่อน)
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #597 เมื่อ: 30 มกราคม 2013, 20:22:12 »

Toyota Wish 2.0 AT ไม่มี CAT
 
ติดตั้งท่อ VCE เพิ่มเข้าไปหลังหม้อพักกลาง
 
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #598 เมื่อ: 01 กุมภาพันธ์ 2013, 08:05:58 »


ท่อ VCE ไม่ต้องลุ้นว่าได้ผลหรือไม่

เพราะแค่ติดตั้งเพิ่ม ทดสอบง่ายๆ ถ้าเกียร์ธรรมดา MT หากของเดิมปล่อยคลัชไม่ได้เหยียบคันเร่งรถไหลออกตัวไปได้เมื่อติดตั้งท่อ VCE ก็จะไหลออกตัวแรงกว่าอยู่ดี ถ้าของเดิมแค่ปล่อยคลัชถ้าไม่เหยียบคันเร่งรถไม่ไหลออกตัวเมื่อติดตั้งท่อ VCE ก็จะไหลออกตัวไปได้ (นั่นคือ แรงขึ้นตั้งแต่รอบเดินเบาชัดเจน)

รถเกียร์ AT หากของเดิมปล่อยเบรกไม่ได้เหยียบคันเร่งรถก็ไหลออกตัวไปได้เมื่อติดตั้งท่อ VCE ก็จะไหลออกตัวแรงกว่าอยู่ดี และถ้าของเดิมแค่ปล่อยเบรกถ้าไม่ได้เหยียบคันเร่งรถไม่ไหลออกตัวเมื่อติดตั้งท่อ VCE ก็จะไหลออกตัวไปได้ (นั่นคือ แรงขึ้นตั้งแต่รอบเดินเบาชัดเจนเช่นกัน)


และทั้งเกียร์ MT และ AT เมื่อถอนคันเร่ง ความเร็วและรอบเครื่องจะไม่ตกวูบทันทีแต่จะลอยตัวอยู่ที่ความเร็วเดิมและรอบเครื่องเดิมครู่หนึ่งก่อน ก่อนจะค่อยๆ ลดลง (ตกช้ากว่าเดิมอยู่ดี)

เกียร์ MT จะลากเกียร์ได้ยาวกว่าเดิมเห็นชัดเจนไม่ต้องลุ้น (เกียร์ AT เวลาคิ๊กดาวน์มาเร็วและแรงกว่า) การลากเกียร์ได้ยาวขึ้นไม่ใช่ว่าจะหลอกกันได้ การไหลออกตัวที่แรงขึ้นก็ไม่ใช่ว่าจะหลอกกันได้ เช่นกันกับกรณีรอบเครื่องตกช้าลง

ท่อ VCE ทำได้ด้วยหลักการไหลของไอเสีย, เรื่อง Back Pressure ซึ่งขนาดท่อไอเสียสัมพันธ์กับรอบเครื่องอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่ท่ออื่นๆ ทำได้เพียงเฉลี่ยไปทางด้านรอบต่ำหรือรอบสูงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือกลางๆ ถัวเฉลี่ยกันไป
บันทึกการเข้า
phorn
Super Senior
*****


กำลังใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,653


« ตอบ #599 เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2013, 09:56:35 »

Toyota Fortuner 3.0AT
ส่งทางบขส. 999 ลงชัยภูมิครับ (ส่งบ่ายถึงเช้าของวันรุ่งขึ้น)


]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]]][[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[[

ท่อไอเสีย VCE เพียงติดตั้งเพิ่มเข้าไปเฉยๆ ไม่ว่ารถระบบไอเสียเดิมๆ หรือทำโล่งมาแล้ว ไม่ว่ามีกล่องพ่วงหรือบูทสปีดคันเร่ง ไม่ว่าเกียร์ MT หรือ AT ก็พุ่งขึ้นเร็วกว่าตั้งแต่รอบเครื่องต่ำๆ ไปถึงกลาง และรอบสูงบางช่วงที่เคยเอื่อยๆ ก็จะจัดจ้านขึ้น รวมทั้งปลายของแต่ละเกียร์ (MT) จะลากได้ยาวและไหลเพิ่มขึ้น ช่วงถอนคันเร่งรอบเครื่องและความเร็วก็ไม่ตกเร็ว (เกียร์ AT ระหว่างเกียร์จะต่อเนื่องเนียนขึ้น) ผ่านทางลาดชันแรงก็ไม่ค่อยตก การไหลของความเร็ว ช่วงความเร็วต่ำ ความเร็วกลางและความเร็วปลายดีขึ้นจากเดิม ปลายไหลดีขึ้นอีก
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 22 23 [24] 25 26 ... 68   ขึ้นบน
พิมพ์
กระโดดไป: