|
phorn
|
|
« ตอบ #476 เมื่อ: 20 กันยายน 2012, 19:17:50 » |
|
Honda CRV-G2 2000cc ซื้อไปติดตั้งเองครับ ///////////////////////////////////////// มีเพียงท่อ VCE เท่านั้นที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แทนที่จะให้ท่อโล่งมากๆ (ที่เรี่ยวแรงลด) ก็ทำให้เป็นตรงกันข้าม (เวลาหรี่รูท่อลงมาไม่ได้ปิดท่อหมดแต่มีช่องว่างรอบๆ ลิ้นครับ) รอบเครื่องสูงขึ้นก็ทำให้ท่อโล่งขึ้นเรื่อยๆ (ไม่ใช่ให้จินตนาการเอาเองว่ามันต้องโล่งขึ้นได้ แต่ด้วยลิ้นที่เปิดกว้างขึ้นตามรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นด้วยแรงดันไอเสีย) จึงให้เรี่ยวแรงดีขึ้นกว่าเดิมในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และในรอบกลาง (ที่ลิ้นเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ) จนไปสัมพันธ์กับของเดิมที่ดีอยู่แล้วที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. (ความเร็วต่ำกว่า 100 กม./ชม. ลงไปพุ่งดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง) ซึ่งไม่มีใครทำได้ (เพราะของเจ้าอื่นทั้งหมดเป็นแบบช่องทางที่ตายตัวขยับปรับเปลี่ยนขนาดรูท่อไม่ได้ ใช้เพียงวิธีปล่อยให้ไอเสียดันและหมุนวนไปตามเกลียวตามร่องที่ทำไว้เท่านั้น)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #480 เมื่อ: 24 กันยายน 2012, 08:31:24 » |
|
CR-V Gen 2 2.0 อยู่ชลบุรีระบบท่อไอเสียไม่มีแคท (โดนกระทุ้งด้วยความหวังดีก่อนมาติดตั้งท่อ VCE เพิ่่มเข้าไปหน้าหม้อพัก) CR-V 2.0 เดิมๆ ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ก็ไม่ค่อยพุ่งเท่าไหร่ โดนกระทุ้งแคทก็จะแย่ลงไปอีก ส่วนใหญ่ไม่ว่าใครจะคิดแต่เพียงว่าระบบไอเสียมันคงจะเริ่มอั้นก็จะไปทำให้โล่งๆ แต่แท้ที่จริงแล้ว ถ้าความเร็วสูงยังพุ่งดีไม่มีปัญหา เพียงอยากได้ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ให้พุ่งมากขึ้นก็ให้ติดตั้งท่อ VCE เพิ่มเข้าไปเท่านั้นครับจากที่ผมลองทดสอบก่อนออกจากร้าน การติดตั้งท่อ VCE ไปแล้วก็พบว่า ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และกลางตอบสนองดีขึ้น (จะทำให้ความเร็ว 10-40 พุ่งดีขึ้นจากของเดิม) ก่อนทำที่ช่วงใกล้ๆ 2000 รอบที่มันจะอืดๆ เร่งไม่ค่อยขึ้นและรอบเครื่องตกเร็วมาก ก็จะพุ่งเพิ่มขึ้น รอบเครื่องจะตกช้าลง (ทุกช่วงความเร็ว) อันนี้จากการทดสอบของผมนะครับ มีฝากไปให้เพื่อนๆ ด้วยครับ มีเพียงท่อ VCE เท่านั้นที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แทนที่จะให้โล่งมากๆ (ที่เรี่ยวแรงลด) ก็ทำให้เป็นตรงกันข้าม รอบเครื่องสูงขึ้นก็ทำให้โล่งขึ้นเรื่อยๆ (ไม่ใช่ให้จินตนาการเอาเองว่ามันต้องโล่งขึ้นได้ แต่ด้วยลิ้นที่เปิดกว้างขึ้นตามรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นด้วยแรงดันไอเสีย) จึงให้เรี่ยวแรงพุ่งขึ้นดีกว่าเดิมในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และในรอบเครื่องกลางๆ (ที่ลิ้นเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ) จนไปสัมพันธ์กับของเดิมที่ดีอยู่แล้วที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ซึ่งไม่มีใครทำได้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Ock
Junior
น้องใหม่
กำลังใจ: 5
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 374
|
|
« ตอบ #481 เมื่อ: 25 กันยายน 2012, 09:35:50 » |
|
มีพี่ๆๆน้องๆๆในคลับไปลองใช้บ้างยังคร๊าบบบบบบ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #482 เมื่อ: 25 กันยายน 2012, 10:41:53 » |
|
ขอบคุณที่อัพให้ครับ ///////////////////////////////////// ส่งให้คุณ PSU แห่ง www.Club4g.com (ไปกับ สยามเดินรถ) ลงหาดใหญ่ครับ D4D2500cc, Ecar1500cc คุณ PSU บอกว่ามีเพื่อนๆ สนใจหลายคนแต่ให้คุณ PSU ลองก่อน คุณ PSU นั้นมั่นใจแล้ว (ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สั่งทีเดียวสองคันหรอกครับ) แต่ผมอยากอธิบายสำหรับประเด็นเหล่านี้ จริงๆ แล้วเลิกกังวลได้เลยว่ามันได้ผลหรือไม่กับท่อไอเสีย VCE เพราะตามหลักวิศวกรรมยานยนต์ไม่สามารถหนีกฎเกณฑ์ที่ว่า ท่อไอเสียที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเครื่องยนต์คือท่อไอเสียที่มีหน้าตัดรูท่อเหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละรอบของเครื่องยนต์ เพราะแต่ละรอบเครื่องของเครื่องยนต์ต้องการขนาดรูท่อที่แตกต่างกัน เล็กในรอบต่ำมาก ใหญ่ขึ้นในรอบสูงขึ้นมา ใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ ตามรอบที่สูงขึ้น ไม่ใช่ให้โล่งที่สุด ใหญ่ที่สุด (ทำรูท่อใหญ่รอเอาไว้ก่อน)ถ้าท่อไอเสียต้องให้ใหญ่ๆ เข้าไว้ ต้องให้โล่งที่สุด โรงงานก็จะทำท่อมาใหญ่ๆ ให้โล่งๆ มาทุกซีซีๆ ทุกรุ่น จะทำอย่างไรก็ได้ง่ายๆ เลยครับ รูท่อ Vigo 3000cc VN Turbo ขนาดรูท่อประมาณ 2.5 นิ้ว (ทำไมไม่ทำ 3 นิ้วให้ใหญ่ๆ ไว้มาจากโรงงาน รถ 6 ล้อก็ใช้ 3 นิ้ว) Hilux Hero 2400cc ขนาดท่อน่าจะ 2.2 นิ้ว Camry 2000cc ขนาดท่อราวๆ 2 นิ้วไม่ได้ใช้ 2.5 นื้ว Vios 1500cc ขนาดรูท่อ 1.6-1.7 นิ้วไม่ได้ใช้ 2 นิ้ว โรงงานรู้ว่าควรจะมีท่อแบบ VCE (แบบที่รูท่อ Variable ได้ตามรอบของเครื่องยนต์) ติดตั้งมาจากโรงงาน แต่ด้วยเหตุผลหลายอย่างจึงไม่เป็นเช่นนั้น ผมเพิ่งไปเปลี่ยนล้อรถมา ให้แก้มสูงขึ้นหน้ากว้างขึ้น (เกาะถนนขึ้นนิ่มขึ้นแต่อืดขึ้น ดีที่มี VCE อยู่จึงไม่อืดในช่วงเร่ง 40-80 เท่าไหร่) ร้านยางบอกว่าโรงงานจะให้ยางติดรถมาที่เป็นยางเกรดต่ำๆ ราคาถูกๆ เข้าไว้ เพราะมันเป็นต้นทุนเป็นค่าใช้จ่าย โดยไม่ต้องลุ้น (พุ่งขึ้นกว่าก่อนทำทุกคันทั้งรถระบบท่อไอเสียเดิมและที่ทำโล่งมาแล้ว) ท่อไอเสีย VCE ให้แรงบิดเพิ่มแน่ในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และกลางๆ และช่วงรอบสูงลากรอบได้ยาวกว่า (แต่ละเกียร์ยาวขึ้น ช่วงต่อระหว่างเกียร์ลื่นไหลพุ่งต่อเนื่องรอบไม่ตก) ถอนคันเร่งรอบเครื่องและความเร็วตกช้ากว่าของเดิมก่อนทำ แต่ไม่เหมาะกับคนที่ขับรถเอื่อยๆ (เพราะอาจจะไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพที่ได้เพิ่มขึ้นมาเต็มที่) และรถที่เป็นระบบไฮบริดจ์ (ใช้ระบบไฟฟ้าล้วนๆ ในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #483 เมื่อ: 26 กันยายน 2012, 23:38:09 » |
|
Triton 3.2 AT และ Lancer E-car 1.6 MT มี Header แบบ 4:2:1 ส่งไปกับ Siam First Express ลงลำพูนครับ ////////////////////////////////////// ตามหลักวิศวกรรมยานยนต์ ท่อไอเสียที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเครื่องยนต์คือท่อไอเสียที่มีหน้าตัดรูท่อเหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละรอบของเครื่องยนต์ เพราะแต่ละรอบเครื่องของเครื่องยนต์ต้องการขนาดรูท่อที่แตกต่างกัน เล็กในรอบต่ำมาก ใหญ่ขึ้นในรอบสูงขึ้นมา ใหญ่ขึ้นมาเรื่อยๆ ตามรอบที่สูงขึ้น ไม่ใช่ให้โล่งที่สุด ใหญ่ที่สุด (แบบทำรูท่อขนาดใหญ่รอเอาไว้ก่อน)ถ้าท่อไอเสียต้องให้ใหญ่ๆ เข้าไว้ ต้องให้โล่งที่สุด โรงงานก็จะทำท่อมาใหญ่ๆ ให้โล่งๆ มาทุกซีซีๆ ทุกรุ่น จะทำอย่างไรก็ได้ง่ายๆ เลยครับ รูท่อ Vigo 3000cc VN Turbo ขนาดรูท่อประมาณ 2.5 นิ้ว (ทำไมไม่ทำ 3 นิ้วให้ใหญ่ๆ ไว้มาจากโรงงาน รถ 6 ล้อก็ใช้ 3 นิ้ว) Hilux Hero 2400cc ขนาดท่อน่าจะ 2.2 นิ้ว Camry 2000cc ขนาดท่อราวๆ 2 นิ้วไม่ได้ใช้ 2.5 นื้ว Vios 1500cc ขนาดรูท่อ 1.6-1.7 นิ้วไม่ได้ใช้ 2 นิ้ว โรงงานรู้ว่าควรจะมีท่อแบบ VCE (แบบที่รูท่อ Variable ได้ตามรอบของเครื่องยนต์) ติดตั้งมาจากโรงงาน แต่ด้วยเหตุผลหลายอย่างจึงไม่เป็นเช่นนั้น โดยไม่ต้องลุ้น (พุ่งขึ้นกว่าก่อนทำทุกคันทั้งรถระบบท่อไอเสียเดิมและที่ทำโล่งมาแล้ว) ท่อไอเสีย VCE ให้แรงบิดเพิ่มแน่ในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และกลางๆ และช่วงรอบสูงลากรอบได้ยาวกว่า (แต่ละเกียร์ยาวขึ้น ช่วงต่อระหว่างเกียร์ลื่นไหลพุ่งต่อเนื่องรอบไม่ตก) ถอนคันเร่งรอบเครื่องและความเร็วตกช้ากว่าของเดิมก่อนทำ แต่ไม่เหมาะกับคนที่ขับรถเอื่อยๆ (เพราะอาจจะไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพที่ได้เพิ่มขึ้นมาเต็มที่) และรถที่เป็นระบบไฮบริดจ์ (ที่ใช้ระบบไฟฟ้าล้วนๆ ในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #484 เมื่อ: 27 กันยายน 2012, 22:52:06 » |
|
Suzuki Vetara 1.6 AT (ขับเคลื่อนสี่ล้อ) ล้อโตระบบท่อไอเสียเดิมๆ (ติดตั้งท่อ VCE เพิ่่มเข้าไปเฉยๆ หน้าหม้อพักใบท้าย) Vetara 1.6 เดิมๆ ช่วงออกตัวรอบเครื่องต่ำๆ ก็จะมีอืดๆ บ้าง ยิ่งล้อโตอย่างนี้ก็จะยิ่งอืดมากขึ้น ต้องการให้ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ พุ่งเร็วขึ้นครับ ถ้าความเร็วสูงยังพุ่งดีไม่มีปัญหา (และไม่อยากสูญเสียการพุ่งดีๆ ในรอบสูง) อยากได้ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ให้พุ่งมากขึ้น ถอนคันเร่งรถก็ยังไหลได้ดีกว่าเดิม ก็ให้ติดตั้งท่อ VCE เพิ่มเข้าไปเท่านั้นครับการติดตั้งท่อไอเสีย VCE สำหรับรถคันนี้ (จากการทดสอบของผมเอง / พี่พร) พบว่าเมื่อกดคันเร่งทั้งช่วงรอบเครื่องที่ต่ำกว่า 1000 รอบและที่รอบเครื่องสูงกว่านั้นจะให้การตอบสนองดีขึ้น ตอบสนองทันทีและกดคันเร่งน้อยกว่าเดิมแต่พุ่งกว่าครับ \\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\ มีเพียงท่อ VCE เท่านั้นที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แทนที่จะให้โล่งมากๆ (ที่เรี่ยวแรงลด) ก็ทำให้เป็นตรงกันข้าม รอบเครื่องสูงขึ้นก็ทำให้โล่งขึ้นเรื่อยๆ (ไม่ใช่ให้จินตนาการเอาเองว่ามันต้องโล่งขึ้นได้ แต่ด้วยลิ้นที่เปิดกว้างขึ้นตามรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นด้วยแรงดันไอเสีย) จึงให้เรี่ยวแรงพุ่งขึ้นดีกว่าเดิมในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และในรอบเครื่องกลางๆ (ที่ลิ้นเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ) จนไปสัมพันธ์กับของเดิมที่ดีอยู่แล้วที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. ซึ่งไม่มีใครทำได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #485 เมื่อ: 28 กันยายน 2012, 18:46:11 » |
|
Honda H23 2300CC ส่งทางไปรษณีย์ ท่อไอเสีย VCE ไม่เหมาะกับคนที่ขับรถเอื่อยๆ (เพราะอาจจะไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพที่ได้เพิ่มขึ้นมาได้เต็มที่) และรถที่เป็นระบบไฮบริดจ์ (ที่ใช้ระบบไฟฟ้าล้วนๆ ในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ)/////////////////////////////////////////// มีเพียงท่อ VCE เท่านั้นที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แทนที่จะให้ท่อโล่งมากๆ (ที่เรี่ยวแรงลด) ก็ทำให้เป็นตรงกันข้าม (เวลาหรี่รูท่อลงมาไม่ได้ปิดท่อหมดแต่มีช่องว่างรอบๆ ลิ้นครับ) รอบเครื่องสูงขึ้นก็ทำให้ท่อโล่งขึ้นเรื่อยๆ (ไม่ใช่ให้จินตนาการเอาเองว่ามันต้องโล่งขึ้นได้ แต่ด้วยลิ้นที่เปิดกว้างขึ้นตามรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นด้วยแรงดันไอเสีย) จึงให้เรี่ยวแรงดีขึ้นกว่าเดิมในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และในรอบกลาง (ที่ลิ้นเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ) จนไปสัมพันธ์กับของเดิมที่ดีอยู่แล้วที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม. (ความเร็วต่ำกว่า 100 กม./ชม. ลงไปพุ่งดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง) ซึ่งไม่มีใครทำได้ (เพราะของเจ้าอื่นทั้งหมดเป็นแบบช่องทางที่ตายตัว /ที่อ้างว่าหมุนได้จริงๆ แล้วก็หยุดนิ่ง/ ขยับปรับเปลี่ยนขนาดรูท่อไม่ได้ ใช้เพียงวิธีปล่อยให้ไอเสียดันและหมุนวนไปตามเกลียวตามร่องที่ทำไว้เท่านั้น)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #486 เมื่อ: 29 กันยายน 2012, 22:16:17 » |
|
“ใส่มาพักนึงละก็โอนะคับ” / Maya Rocktron/ www.club4g.com\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\ ขอบคุณครับ จาก พี่พร VCE 0851423903\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\ ท่อไอเสีย VCE ขายความจริง ทำได้จริง อะไรที่ไม่ใช่สาระสำคัญก็จะเอาไว้พัฒนาหลังสุด (เช่นความสวยงาม ตอนนี้ให้มันเป็นเจ้าเงาะไปก่อน /เพราะไม่อยากบวกเพิ่มโดยไม่จำเป็น /เอาไว้ใช้งานไม่ใช่เอาไว้ดูเล่น) ไม่ใช่ปัดแป้งให้สวยเอาไว้ก่อนท่อไอเสีย VCE มีหน้าที่ช่วยเหลือช่วงรอบต่ำของเครื่องยนต์ ช่วยให้ท่านไม่ต้องเหยียบคันเร่งเยอะ เพิ่มความกระฉับกระเฉง เพิ่มความปลอดภัยในการเร่งแซง (รถจากโรงงานช่วงรอบเครื่องต่ำๆ จะเป็นช่วงที่แย่ที่สุดของรถคันนั้นๆ) และช่วงรอบกลาง ลากเกียร์ได้ยาวขึ้น (ก็จัดขึ้น ก็แรงขึ้นทั้งช่วงต้นเกียร์และปลายเกียร์)ทำได้อย่างนี้ (ก็ยังอุตส่าห์ มีบางท่านยังพยายามจะป่าวประกาศว่า มันไม่ได้ผลอะไรเลยๆ ดูไร้ค่า) มิหนำซ้ำยังมีเค้าลางว่าจะทำให้ท่านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่พากันหลงทิศหลงทาง (เสียเงินโดยต้นก็ยังไม่ได้กลับจะแย่ลงกว่าเดิมปลายดันหายซะอีกโดนสองเด้งสามเด้งเงินก็เสีย ต่อไปค่าเชื้อเพลิงก็ต้องเสียเพิ่มขึ้น /เป็นสี่เด้ง) หลายคนเข้าใจผิดว่าท่อไอเสีย VCE ก็คงใช้หลักการคล้ายท่อแทนแคทต่างๆ แต่จริงๆ แล้วจะต่างกันอย่างสิ้นเชิงเพราะตัวแทนแคทต่างๆ จะใช้หลักการบีบบังคับไอเสียให้ไหลผ่านช่องทางที่กำหนดไว้ (และเป็นแบบตายตัว แต่ทั้งๆ ที่เป็นแบบตายตัวแต่เจ้าของผู้ผลิตบางรายก็พยายามจะใช้สโลแกนพลิกแผลงให้คิดได้ว่ามันหมุนหรือใช้โครงสร้างที่มีการเปลี่ยนแปลงไม่ได้หยุดนิ่ง คนก็พากันเชื่อตามๆ กันไป) ซึ่งในการใช้งานจริงจะไม่ให้ผลเต็มที่ในช่วงรอบต่ำได้จริง (ช่วงความเร็ว…..ไม่ต้องจาก 0 ก็ได้ เอาสัก 5 มา 40 กม./ชม. ก็ไม่ได้ดีกว่าเดิมแล้ว) และเนื่องจากรูท่อที่ถูกทำให้บีบๆ ไว้ (เพื่อไม่ให้ช่วงต้นแย่จนเกินไป) ก็จะมีผลให้ช่วงความเร็วสูงๆ (ประมาณ 110-120 กม./ชม .ขึ้นไป) จะเริ่มแย่ๆ จนในท้ายที่สุด ช่วงปลาย (ความเร็วปลาย) และปลายของแต่ละเกียร์จะแย่ลงด้วยในขณะที่ท่อไอเสีย VCE มันเป็นแบบ Variable หรือมีขนาดรูท่อที่เปลี่ยนแปลงได้ (จากเล็กในรอบต่ำและขยายกว้างขึ้นในรอบสูง) จึงมีหลักการทำงานที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง (ระหว่าง รูท่อที่มีขนาดเปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมาตามรอบเครื่องยนต์อย่างตรงๆ / แบบตรงตัว กับ รูท่อที่คงที่แต่อาศัยช่องทางหรือเกลียวให้ไอเสียดันตัวออกไป /แบบโดยอ้อม) โดยไม่ต้องลุ้น (พุ่งขึ้นกว่าก่อนทำทุกคันทั้งรถระบบท่อไอเสียเดิมและที่ทำโล่งมาแล้ว) ท่อไอเสีย VCE ให้แรงบิดเพิ่มแน่ในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และกลางๆ และช่วงรอบสูงลากรอบได้ยาวกว่า (แต่ละเกียร์ลากได้ยาวขึ้น ช่วงต่อระหว่างเกียร์ลื่นไหลพุ่งต่อเนื่องรอบไม่ตก) ถอนคันเร่งรอบเครื่องและความเร็วตกช้ากว่าของเดิมก่อนทำ แต่ไม่เหมาะกับคนที่ขับรถเอื่อยๆ (เพราะอาจจะไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพที่ได้เพิ่มขึ้นมาเต็มที่) และรถที่เป็นระบบไฮบริดจ์ (ที่ใช้ระบบไฟฟ้าทำงานล้วนๆ ในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #488 เมื่อ: 02 ตุลาคม 2012, 16:08:29 » |
|
ส่งไปต่างจังหวัดครับทาง EMS HONDA 2200CC \\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\ รถที่มีแคทอยู่ทะลวงแคทก็แรงขึ้นซิครับ แต่จะแรงขึ้นในช่วงกลาง (ช่วง 2000 3000 รอบขึ้นไป) แต่ช่วงรอบเครื่องที่ต่ำกว่านั้นแรงบิดจะน้อยลง เมื่อใส่ตัวแทนแคทมีช่องทางที่แคบๆ เข้าไปแทน (เพื่อให้ช่วงรอบต่ำไม่เลวร้ายมากนัก) ช่วงความเร็วช่วงสูงๆ (ช่วง 3000-4000 รอบขึ้นไป) ก็จะเริ่มอั้นๆ (จะแย่กว่าก่อนทำอีก) ทำให้กินน้ำมันหรือแก๊สมากขึ้นในขณะเดียวกันช่วงความเร็วต่ำ (ที่คุณอยากได้ ช่วงความเร็ว 10-40 กม./ชม.) ก็ไม่ดีขึ้นจากเดิม (จะแย่กว่าเดิมด้วยเพราะทะลวงแคทท่อมันโล่งขึ้นต้นไม่ได้ ใส่ตัวแทนแคทเขาก็ช่วยช่วงนี้มากไม่ได้เพราะปลายจะยิ่งตันเร็วกว่าเดิม) ได้ช่วงกลาง 40-80 (เนื่องจากโล่งเพราะทะลวงแคทแล้วและได้ตัวแทนแคทช่วย) ต้องเหยียบคันเร่งเยอะในช่วงความเร็วต่ำ (ความเร็ว 10-40 กม./ชม.) ก็กินมากขึ้น (วิ่งแย่แล้วยังกินหนักเข้าไปอีก) ในช่วงความเร็วต่ำๆ จะให้ไปดีต้องใช้รอบเครื่องสูงกว่าเดิม (ต้องกดลึก ต้องเลี้ยงรอบเครื่อง โดยเฉพาะกรณีไปเปลี่ยนหม้อพักร่วมด้วย ทำท่อให้ใหญ่ขึ้นให้โล่งขึ้นอีก) ใส่ตัวแทนแคท (ที่มีทุกระดับราคา 1000 กว่าถึง 3000 กว่า) เหล่านี้ ซึ่งจะแตกต่างกันหลักๆ เพียงรูปโฉมภายนอก (กลายเป็นว่าซื้อแพงขึ้นก็จากรูปโฉมภายนอกเป็นหลัก) ภายในจะคล้ายๆ กัน เทคนิคเหล่านี้ลอกเลียนแบบกันมาแล้วมาพลิกแปลงแตกต่างกันเล็กๆ น้อยๆ (ทำเป็นเกลียวๆ หรือไม่ก็เป็นช่องซี่ๆ ช่องวงรี หรือ เป็นช่องตรงๆ ก็แล้วแต่จะออกแบบมา) ล้วนเป็นแบบติดตายทั้งสิ้นกลไกไม่ได้ขยับตัว รูปแบบเป็นแบบคงที่ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนขนาดรูท่อใหญ่เล็กตามไอเสียที่มากน้อยตามรอบเครื่องยนต์ (จึงจะอั้นขึ้นในรอบสูง ที่หวังว่าจะพุ่งยาวๆ ก็กลายเป็นปลายขึ้นช้า วิ่งพุ่งน้อยลงแล้วยังบริโภคมากขึ้น)ไม่หนีความจริงเหล่านี้ครับ มือเก่าผ่านประสบการณ์เหล่านี้มาแล้วจะโดนหลอกน้อยลง (ยกเว้นรู้อยู่ทั้งรู้) มือใหม่โดนค่อนข้างแน่เพราะในตลาดมันเป็นแบบนี้ทั้งนั้นครับแล้วไม่ว่าจะอย่างไร แม้ว่าเพิ่งจะผ่านประสบการณ์นั้นมาก็มาใช้งานท่อไอเสีย VCE ได้ เพราะของเราไม่เหมือนตัวแทนแคทเหล่านั้น ท่อไอเสีย VCE เพียงติดตั้งเพิ่มเสริมเข้าไปเท่านั้น (ไม่ว่ารถที่ระบบท่อไอเสียยังเดิมๆ หรือทำโล่งมาแล้ว) ก็จะได้แรงบิดที่รอบต่ำมามากขึ้นและมาที่ช่วงรอบเครื่องต่ำกว่าเดิม (ประมาณ 4-500 รอบ) แถมด้วยลากรอบในแต่ละเกียร์ได้มากขึ้น (ความเร็วสูงนอกจากไม่อั้นแล้วยังดีขึ้นอีก) ลากรอบได้ยาวขึ้น (ปลายจัดขึ้น) แถมด้วย เวลาถอนคันเร่ง (แม้อยู่ในช่วงความเร็วต่ำๆ ซึ่งจะหมดแรงง่ายมากสำหรับเครื่องยนต์) รอบเครื่องและความเร็วจะตกช้าลง ยังคงไหลๆ ได้ดี ซึ่งไม่มีใครทำได้แบบนี้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #489 เมื่อ: 03 ตุลาคม 2012, 19:23:38 » |
|
Ford Ranger 2200cc, Navara 2500cc, Triton 2500cc สั่งมาทางคุณ PSU สมาชิก www.club4g.com คุณ PSU (มีแฟนทำงานอยู่ในม.อ. หาดใหญ่ / ขออภัยครับที่ละลาบละล้วง/ พี่พร) รู้จักคนมากมาย อย่างที่ทราบกันดีช่วงรอบเครื่องต่ำๆ รถส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีแรง ถ้าไม่แรงขึ้นจริงก็อย่าหวังว่าคุณ PSU จะสั่งเพิ่มนะครับ ///////////////////////////// ท่อไอเสีย VCE เพียงติดตั้งเพิ่มเสริมเข้าไปเท่านั้น ไม่ต้องตัดแคททะลวงแคทหรือเปลี่ยนแทนหม้อพักใดๆ (ไม่ว่ารถที่ระบบท่อไอเสียยังเดิมๆ หรือทำโล่งมาแล้ว) ก็จะได้แรงบิดที่รอบต่ำมามากขึ้นและมาที่ช่วงรอบเครื่องต่ำกว่าเดิม (มาเร็วกว่าประมาณ 4-500 รอบ) แถมด้วย (อย่างเกียร์ธรรมดา) จะลากรอบในแต่ละเกียร์ได้มากขึ้น (ความเร็วสูงนอกจากไม่อั้นแล้วยังดีขึ้นอีก) ลากรอบได้ยาวขึ้น (ปลายจัดขึ้น) แถมด้วยเวลาถอนคันเร่งรอบเครื่องและความเร็วจะตกช้าลง ยังคงไหลๆ ได้ดี (แม้อยู่ในช่วงความเร็วต่ำๆ ซึ่งจะหมดแรงง่ายมากสำหรับเครื่องยนต์) รถเกียร์ธรรมดาจากการออกตัวแบบปล่อยครัชไม่เหยียบคันเร่ง (เกียร์ 1 เกียร์ 2 แล้วแต่รุ่น หรือ เกียร์ 3 เช่น Vigo 3000cc) รถไม่ไหลก็สามารถไหลออกไปได้ (เพราะมีแรงบิดเพิ่ม) ขึ้นเนินทางขึ้นห้างชันๆ ใช้รอบเครื่องต่ำกว่าเดิมแต่มีแรงมากขึ้น (เพราะแรงบิดได้เพิ่มจริง) ซึ่งไม่มีใครทำได้แบบนี้ครับ (ย้ำว่าไม่มีใครทำได้แบบนี้ไม่ว่าของทำในนี้หรือของนอกราคาแพงแค่ไหนก็ตามครับ/ทดสอบและขึ้นไดโน่และสำรวจข้อมูลมาแล้วครับก่อนไปจดสิทธิบัตร) แต่ไม่เหมาะกับคนที่ขับรถเอื่อยๆ (เพราะอาจจะไม่ได้ใช้ประสิทธิภาพที่ได้เพิ่มขึ้นมาเต็มที่) และรถที่เป็นระบบไฮบริดจ์ (ที่ใช้ระบบไฟฟ้าทำงานล้วนๆ ในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #490 เมื่อ: 04 ตุลาคม 2012, 22:48:06 » |
|
ครับ เคยอ่านกระทู้เจอ จำไม่ได้ว่าท่านผู้รู้ท่านใดให้ความรู้ไว้ ผมเจอด้วยตัวเองครับ คือแคตฯ ตันรถวิ่งไม่ออกเลยตัดสินใจตัดออกแล้วแทนด้วยท่อเกลียวใน ปรากฏว่ารถออกตัวไม่ดี (แรงบิดต่ำ) ในช่วงรอบต่ำ แต่รอบกลางและปลายดีมาก รถผม Espero 1800 CD/Auto ทำให้ความรู้สึกเวลาขับแย่มาก ลองแก้ไขโดยใส่ท่อที่มี ID (ขนาดรูท่อ / พี่พร) เล็กลงกว่าท่อเดิมนิดหน่อย ได้แรงบิดช่วงรอบต่ำครับ แต่กลางและปลายอั้น จนในที่สุดตัดสินใจลองสั่งท่อ VCE มาใช้ปรากฏว่าปัญหาจบ เลยมาเล่าสู่กันฟังครับ แต่ workmanship ของงานท่อเห็นแล้วไม่สมราคาเลยจริง (ราคาค่อนข้างสูงครับ ก็คงเป็นค่า knowhow และค่าใช้จ่าย+ระยะเวลา+ฯลฯ ที่ลองผิดลองถูกมาจนได้ผลงานนี้มา) แต่ก็คิดว่าช่างมัน มันอยู่ใต้ท้องรถ เอาสมรรถนะเป็นเกณฑ์ คิดว่าราคาก็พอกับแคตฯตัวใหม่ แต่ให้ผลที่ดีกว่าสำหรับอัตราเร่งต่อเนื่องครับ ครับก็แค่มาเล่าสู่กันฟังอ่ะครับ ว่าผมเจอปัญหาและพบทางแก้ไข \ uncle \ www.daewoo-thailand.comหัวข้อ http://www.daewoo-thailand.com/forums/index.php?topic=3995.0ขอบคุณ คุณ uncle / พี่พร 0851423903
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #492 เมื่อ: 07 ตุลาคม 2012, 13:45:20 » |
|
ฟังไม่ได้ศัพท์อย่าจับมากระเดียด อย่าเหมารวม อย่าจับแพะชนแกะ เอาความจริงเป็นที่ตั้ง อย่าใช้อารมณ์เป็นเครื่องตัดสิน ใช้ความคิดให้มากกว่าความรู้สึก \\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\ ใครบ้างที่ใช้เทคโนโลยีคล้ายๆ ของท่อไอเสีย VCE ใช้อยู่ (ของ VCE แตกต่างด้วยตัวควบคุมลิ้นและ แตกต่างตรงลิ้นที่แตกต่างกันระหว่างซีซี) และของ VCE เป็นแบบ Stage เดียว (กึ่ง 2 Stage เพราะช่วงใกล้รอบเดินเบาจะหน่วงไว้เล็กน้อยเป็นช่วงที่ขยับตัวน้อยที่สุด / ลดการหน่วงของลิ้นไปเรื่อยๆ ตามรอบเครื่องที่สูงขึ้น ในขณะที่ช่วงรอบสูงจะอิสระมากที่สุด) Who use it ? Variable back-pressure exhaust หรือ ทางเดินไอเสียที่ปรับแรงอัดในท่อไอเสียแบบต่อเนื่อง คล้ายที่ท่อไอเสีย VCE ใช้ (Variable Capacity Exhaust) Aston Martin Vanquish Ferrari 550 Maranello, 360 Modena Honda Integra Type R Lamborghini Diablo 6.0 Mitsubishi Lancer Evo VII Nissan Sentra SE-R Spec V, Maxima, Cima (Infiniti Q45) เป็นแบบ 2 Stage คือ Close ในช่วงรอบต่ำ (เพิ่ม Output Speed ในช่วงรอบต่ำ) และ Open ในช่วงรอบสูง (เพิ่ม Output Speed ในช่วงรอบสูง) ควบคุมการเปิด (แบบสองจังหวะดังกล่าว) ด้วย ECU หัวข้อ Power Boosting Technology ที่ลิงค์นี้ครับ เอาไปอ่านประดับความรู้ http://www.autozine.org/technical_school/engine/tech_engine_2.htm
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #493 เมื่อ: 09 ตุลาคม 2012, 08:52:04 » |
|
adjusts the back pressure within the collector of the exhaust system to enhance pressure wave formation as a function of engine speed. This ensures good low to mid-range performance. ปรับแรงดันย้อนกลับที่สะสมอยู่ภายในระบบช่องทางเดินไอเสีย เพื่อปรับคลื่นแรงอัดตามสปีดของเครื่องยนต์ มั่นใจได้ว่าช่วงรอบต่ำไปถึงรอบกลางของเครื่องยนต์จะตอบสนองดีขึ้นMore supercars now employ variable back-pressure exhaust. It is somewhat like the variable intake manifold, just locate at the exhaust ปัจจุบันซุปเปอร์คาร์หลายคันใช้ระบบท่อไอเสียแบบ variable back-pressure exhaust (ปรับแรงดันย้อนกลับในช่องทางเดินไอเสีย/โดยการปรับขนาดช่องทางเดินไอเสีย) เหมือนกับระบบ variable intake manifold (ปรับขนาดความจุในท่อไอดี) แต่มาใส่ในทางเดินไอเสีย อ่านรายละเอียดจากลิงค์นี้ครับ\\\\ http://www.formula1-dictionary.net/exhaust_road_perf.html//////////////////////////////////////// อย่างคันนี้ Fortuner 3.0 VN Turbo ทำโล่งมา แคทก็ตัดออกไปแล้วหม้อพักก็เปลี่ยนใหม่ กล่องพ่วงก็มี จากเดิมๆ โรงงานที่เริ่มพุ่งจากราวๆ 1000 รอบนิดๆ ตอนนี้ต้องใกล้ๆ 2000 รอบโน่นแหละถึงจะพุ่งดี ทำยังไงก็ช่วยได้ไม่เต็มที่ (กล่องพ่วงก็ช่วยได้แต่ก็ไม่สามารถทำให้พุ่งดีในรอบเครื่องที่ต่ำกว่า 2000 รอบได้มากนัก) จะใส่หม้อพักเดิมหรือใส่แคทกลับเข้าไปด้วยรึ กลางและกลางสูงก็จะไม่พุ่งมากเท่าตอนนี้ซิ (จะไปใส่ตัวแทนแคทอื่นๆ รึ ก็อาจจะพุ่งดีขึ้นที่รอบเครื่องต่ำลงมาสักร้อยสองร้อยรอบแต่ก็ต้องแลกกับตั้งแต่รอบกลางขึ้นไปเริ่มอั้น) ก่อนใส่ท่อ VCE สังเกตว่าเวลาถอยขึ้นขาหยั่งจะใช้รอบเครื่องสูงและแรงฉุดขึ้นไปจะไม่ดี หลังติดตั้งให้ลองถอยขึ้นอีกครั้งก็ขึ้นได้ดีตั้งแต่รอบเครื่องต่ำๆ แตกต่างกันชัดเจนครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #494 เมื่อ: 10 ตุลาคม 2012, 11:33:09 » |
|
Mercedes Benz 300TD (W123) ติดตั้งท่อ VCE เพิ่่มเข้าไปเฉยๆ / ถ้าเป็นเบนซ์รุ่นใหม่ๆ จะติดตั้งไม่ได้ครับไม่มีพื้นที่ เป็นปกติของเครื่องยนต์ (ไม่ว่ารุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่) ที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ จะไม่ค่อยพุ่ง ต่างจากช่วงรอบเครื่องสูงๆ ที่จะพุ่งดี ส่วนใหญ่ เจ้าของรถจะคิดแต่เพียงว่าระบบไอเสียแบบที่มากับรถมันคงจะอั้นก็คิดจะไปทำให้อั้นน้อยที่สุด (กรณีอย่างนี้ก็จะตกเป็นเหยื่ออันโอชะของร้านท่อไอเสีย เขาจะแนะนำให้ไปทำให้โล่งขึ้น โดยการขยายท่อให้ใหญ่ขึ้นหรือเปลี่ยนหม้อพักให้โล่งขึ้น พอลูกค้าทำไปแล้วไม่ดีขึ้นแต่กลับแย่ลง ก็จะเปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่เดินหน้าละครับ บานปลาย สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ)
เมื่อมาหาผม ผมก็จะแนะนำไปว่า ถ้าทำอย่างนั้นคุณจะไม่ได้ช่วงต้น ลองสังเกตดูได้เวลาออกตัวจะต้องใช้รอบเครื่องสูงขึ้น รอบเครื่องต่ำๆ จะไม่ค่อยมีแรง จะได้ช่วงรอบสูง (ที่ดีอยู่แล้ว) ดีมากขึ้นแต่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ จะแย่ลง (จากที่พอใช้ได้หรือที่ไม่ดีอยู่แล้วก็จะแย่ลงไปอีก) และถ้าทางร้านพยายามทำให้ช่วงต้นดีขึ้น ปลายที่เคยดีอยู่แล้วก็จะแย่ลง ดังนั้น ถ้าหากช่วงความเร็วสูงพุ่งดี เพียงอยากได้ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ (และกลางด้วย) ให้พุ่งมากขึ้นและทุกช่วงความเร็วเวลาถอนคันเร่งรถยังไหลได้ดีรอบเครื่องจะตกช้าลงความเร็วตกช้าลง ก็ให้ติดตั้งท่อไอเสีย VCE เพิ่มเข้าไปเท่านั้นครับ (ไม่ต้องตัดแคทหรือเปลี่ยนแทนหม้อพัก) \\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\ มีเพียงท่อ VCE เท่านั้นที่ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แทนที่จะให้โล่งมากๆ (ที่เรี่ยวแรงลด) ก็ทำให้เป็นตรงกันข้าม รอบเครื่องสูงขึ้นก็ทำให้โล่งขึ้นเรื่อยๆ (ไม่ใช่ให้จินตนาการเอาเองว่ามันต้องโล่งขึ้นได้ แต่ด้วยลิ้นที่เปิดกว้างขึ้นตามรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นด้วยแรงดันไอเสีย) จึงให้เรี่ยวแรงพุ่งขึ้นดีกว่าเดิมในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และในรอบเครื่องกลางๆ (ที่ลิ้นเปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ) จนไปสัมพันธ์กับของเดิมที่ดีอยู่แล้วที่ความเร็วประมาณ 100 กม./ชม.ขึ้นไป ซึ่งไม่มีใครทำได้ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #495 เมื่อ: 11 ตุลาคม 2012, 12:24:26 » |
|
\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\ Ferrari F50 Engine Type: Tipo 040-derived, model SFE 4.7 VJGAEA Position: mid-engine, rear-wheel drive Configuration: longitudinal 60-valve 65° V12, derived from F1 unit ………………. ECU: Bosch Motronic 2.7 (controls the fuel feed, ignition timing, and variable length intake and exhaust systems) Fuel feed: Sequential injection Ignition: Bosch static electronic distributor-less ignition Lubrication: dry sump, tank incorporated within the final drive housing, 3 scavenger pumps Variable intake: butterfly valve in carbon fiber intake manifold closed at low rpm, open at high rpm Variable exhaust: butterfly valve in upper tailpipes closed at low rpm, open at high rpm\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\ แปลว่าอะไรแปลแบบบ้านๆ นะ Ferrari F50 ใช้อุปกรณ์คล้ายๆ ลิ้นปีกผีเสื้อทำการปรับในช่องทางเดินไอดี โดย ปิด ในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และ เปิด ในช่วงรอบเครื่องสูงๆ และ ใช้อุปกรณ์คล้ายๆ ลิ้นปีกผีเสื้อทำการปรับในช่องทางเดินไอเสีย โดย ปิด ในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ และ เปิด ในช่วงรอบเครื่องสูงๆ เรา ท่อไอเสีย VCE ไม่ได้ใช้อุปกรณ์แบบ Ferrari F50 ทุกอย่าง แต่ ใช้อุปกรณ์คล้ายๆ ลิ้นปีกผีเสื้อทำการปรับในช่องทางเดินไอเสีย เช่นเดียวกัน โดย ในช่วงรอบต่ำไม่ได้ปิดสนิท แต่หรี่ๆ (ไอเสียออกได้จำนวนหนึ่ง) ในช่วงรอบเครื่องสูงขึ้นก็เปิดกว้างขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยแรงดันไอเสียไม่ได้ควบคุมด้วย ECU (เปิดกว้างมาก/น้อยตามความต้องการของการคายไอเสีย / ทดสอบแล้วว่าถ้าให้เปิดพรวดออกไปกับค่อยๆ เปิดตามรอบเครื่องจะได้แรงบิดต่างกันมาก) ในช่วงรอบเครื่องสูงๆ สามารถเปิดได้อิสระเต็มที่/////////////////////////////////////// ส่งไปให้ต่างจังหวัดทางรถตู้ครับ มีคู่มือการติดตั้งและที่ตัวท่อมีเขียนบอกทางเข้า/ออกและด้านล่างไม่ต้องกังวลว่าจะติดตั้งผิด เพราะถ้าติดกลับหน้ากลับหลังไม่ห้อยหัวจะวิ่งได้ไม่เกินร้อยจะรู้ทันที (เหมือนช้างมาฉุดอยู่ข้างหลัง ต่างจากที่ติดถูกต้องพุ่งตั้งแต่แรกที่ออกตัวแล้วจะพุ่งเดินหน้าตลอด รถสเป็คเดียวกันไม่มีทางตามทันยกเว้นเราจะยกคันเร่งเท่านั้น) หรือถ้าไม่กลับหน้ากลับหลังแต่ห้อยหัวก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนติดท่อโล่งๆ เข้าไปเท่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #496 เมื่อ: 12 ตุลาคม 2012, 11:05:23 » |
|
I'm just pointing this out cause no-one else has but any device electronic or manual that can effect the sound of your exhaust system is illegal in Austraila. Oh, and a loud car is not a fast car. You only really said you wanted this to make your car louder, not faster. Depending on the engine you will loose a heap of torque down low or in the lower half of the rev range with a straight through system, only really seeing the benifits at the drags, circuit or dyno. / RB30X หัวข้อ Variable Exhaust Butterfly Valve in an RB25 Z แปลแบบบ้านๆ นะ ///////////// ………..รถที่เสียงดัง (เสียงท่อดังๆ ) ไม่ได้หมายความว่าเป็นรถที่วิ่งเร็ว……เพราะเครื่องยนต์จะสูญเสียทอร์คในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ (หรือครึ่งนึงนับตั้งแต่ช่วงกลางของรอบเครื่องลงมา) ซึ่งจะทราบความจริงนี้ ทั้งในสนามแดรกและบนไดโน่ / RB30X ลิงค์ http://www.viczcar.com/forum/index.php/topic,3593.15.html?PHPSESSID=2df413eb77b6fcf419699fddec34248d////////////////////////////////////////// ส่งให้ทางรถตู้ครับ (เจ้าเดิมที่เคยสั่ง) สั่งไปให้พรรคพวกของเขาครับ ช่วงนี้ผมจะสอดแทรกความรู้ให้ตลอด ส่วนใครจะไม่รับก็ไม่ว่าอะไรไม่เห็นแปลกครับ ผมอ่านประวัติการปรับปรุงเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ที่จากแบบ SOHC ก็พัฒนาเป็นแบบ DOHC เพิ่มระบบปรับไทม์มิ่งของวาวล์ทางไอดี VVT-i หรือ V-TEC หรือ VANOS เป็นเพิ่มระบบไทม์มิ่งทางฝั่งไอเสียด้วย Dual VVT-i หรือ Double VANOS มีการใช้ระบบปรับความยาวสั้นทางช่องทางเดินไอดี (ยาวในรอบต่ำ สั้นในรอบสูง) แล้วหันมาปรับทางฝั่งไอเสียบ้างในเวลาต่อมา (ให้อั้นขึ้น มีแบคเพรสเชอร์มากขึ้นในรอบต่ำ และ ให้มีแบคเพรสเชอร์น้อยในรอบสูง) นั่นคือการพัฒนาเดินไปข้างหน้าซึ่งเป็นทางที่ถูก ส่วนใครจะชักชวนใครบอกว่าแบบนี้ไม่ดี แบบที่ยังไม่ได้พัฒนาแบบเดิมแบบปรับขนาดช่องทางเดินไอเสียไม่ได้มันดีกว่าก็แล้วแต่ศัทธาก็แล้วกัน เพราะไม่ช้าก็เร็วก็จะพบกับความจริงที่ว่า เมื่อคุณทำให้ต้นดีขึ้นเล็กน้อยคุณก็จะเสียปลายไปด้วยพร้อมกัน ไม่มีระบบฟิกซ์ (ซึ่งภายในไม่สามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้) หลีกหนีหลักเกณฑ์นี้ครับเพราะมันเป็นไปตามหลักวิศวกรรมยานยนต์ Supercars ต่างๆ หลายรุ่นจึงไม่ใช้ช่องทางเดินไอเสียที่ทำเป็นเกลียวเป็นช่องแบบระบบฟิกซ์ (ที่ปรับขนาดช่องทางเดินไอเสียไม่ได้) กับรถของเขา (อย่างดีเขาก็ใช้หม้อพักแบบปกติของเขาไปเลยหรือไม่ก็หม้อพักที่คำนวณให้ได้ค่าเฉลี่ยต้นและปลายดีๆ ) ในเมื่อเขารู้อยู่ว่าระบบที่มันสามารถปรับช่องทางเดินไอเสียได้นั้นมาดีกว่าจริง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #497 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2012, 17:18:41 » |
|
ให้ความรู้ต่อไป ความรู้คือแสงสว่าง (แต่บางครั้งก็ต้องดูดีๆ เหมือนกัน เพราะบางสถานที่ที่ผมลองเข้าไปให้ความกระจ่างเพิ่มเติมกลับได้รับผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจเท่าไหร่) /////////////////////////// ความจริงไม่ใช่ความเชื่อ วิศวกรยานยนต์ออกแบบระบบไอเสียของรถยนต์ที่ออกมาจากโรงงานแต่ละรุ่นโดยอาศัยค่าเฉลี่ย (ไม่ใช่สักแต่ว่าทำหม้อพักขึ้นมาอย่างไรก็ได้โดยไม่มีการคำนวณทดสอบ) โดยให้มีแบคเพรสเชอร์ที่รอบเครื่องต่ำๆ พอใช้ได้ในขณะที่ช่วงรอบสูงก็ให้มีแบคเพรสเชอร์ไม่สูงเกินไป (ที่ให้มีแบคเพรสเชอร์ที่รอบเครื่องต่ำๆ พอใช้ได้ หมายถึง /แบบบ้านๆ นะ / มีแรงดันย้อนกลับในระบบท่อไอเสียอยู่พอสมควร / วิธีการ ก็โดยไม่ให้ระบบมันโล่งมากไป / ส่วนจะโล่งมากน้อยแค่ไหนอยู่ที่การคำนวณทดสอบ / จริงๆ แล้ว วิศวกรอยากให้อั้นมากกว่านี้อีกสักหน่อย แต่ทำไม่ได้ด้วยมันจะมีผลให้อั้นในรอบสูงมากเกินไป /จึงใช้ค่าเฉลี่ยไงครับ/ ) คำว่า “ให้มีแบคเพรสเชอร์ที่รอบเครื่องต่ำๆ พอใช้ได้” หมายถึง จริงๆ แล้ว วิศวกรจะทำระบบไอเสียของรถยนต์คันนั้นๆ มีแบคเพรสเชอร์ที่รอบเครื่องต่ำๆ มากกว่านั้นก็ได้ แต่ติดกับปัญหาที่ว่าจะมีผลให้แบคเพรสเชอร์ที่รอบเครื่องสูงๆ มีค่าสูงขึ้น อันจะมีผลให้ระบบไอเสียเกิดการอั้นที่ช่วงรอบสูง อันทำให้สูญเสียแรงม้า อันจะทำให้ช่วงความเร็วสูงมีปัญหา (ทำความเร็วปลายด้อยกว่าเดิม ซึ่งคุณจะพบความจริงนี้เมื่อหลงเชื่อ/โดยถูกทำให้เชื่อ/หรือหลงผิด/ ไปติดตั้งตัวแทนแคทที่อ้างว่าช่วยช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ได้แล้วยังระบายไอเสียได้ดีกว่าเดิม /ทั้งๆ ที่ถ้าเฉลียวใจสักนิดลองส่องดูภายในก็จะเห็นว่า ล้วนทำเป็นลักษณะเกลียวๆ หรือ มีอุปกรณ์อั้นไอเสียขวางทางอยู่ /แล้วจะไม่อั้นในช่วงรอบสูงได้อย่างไร) วิศวกรยานยนต์แต่ละท่านต่างก็พบกับปัญหานี้ด้วยกันทั้งหมด (อั้นให้ระบบไอเสียมีแบคเพรสเชอร์เพิ่มขึ้นได้แรงบิดช่วงรอบต่ำดีขึ้นแต่มีผลให้ช่วงรอบสูงอั้นมากขึ้นแรงม้าลดปลายแย่ลง ครั้นลดแบคเพรสเชอร์ระบบไอเสียลงช่วงรอบต่ำแรงบิดหายไม่มีแรงแต่ปลายดี) จึงใช้วิธีเฉลี่ยให้ได้ต้นพอใช้ได้และปลายไม่แย่มากนัก แต่ Supercars ไม่ได้หยุดแค่นั้น ต้องพยายามแก้ไขจุดไหนอ่อนพัฒนามันเข้าไป จุดไหนแข็งต้องรักษาไว้ จึงเป็นที่มาของ Variable exhaust: butterfly valve in upper tailpipes closed at low rpm, open at high rpm วิศวกรยานยนต์รู้โดยทฤษฎีการทดสอบ ว่า โดยอุดมคติ ถ้าสามารถทำให้แบคเพรสเชอร์สูง (พอดี) ที่รอบต่ำๆ แบคเพรสเชอร์ค่อยๆ ลดลง (เหมาะสม) ตามรอบเครื่องที่สูงขึ้น (ในแต่ละรอบเครื่องที่เปลี่ยนแปลง) และแบคเพรสเชอร์น้อยๆ (เหมาะสม) ที่รอบสูง จะทำให้ระบบไอเสียของเครื่องยนต์นั้นๆ ให้ประสิทธิภาพสูงสุด ให้ประสิทธิภาพสูงสุดหมายถึงว่า สามารถให้แรงบิดแรงม้าดีที่สุด (สูงขึ้น) ในช่วงรอบเครื่องที่ (วิศวกรจำเป็นให้มัน) พอใช้ได้ / ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ไปถึงกลาง สำหรับท่อไอเสีย VCE : Variable Capacity Exhaust ออกแบบมาช่วยเหลือระบบไอเสียรถยนต์ต่างๆ ที่ยังให้แบคเพรสเชอร์ช่วงรอบต่ำไปถึงกลางที่ยังทำได้ไม่ดีพอ (ก็รถยนต์ที่ท่านๆ ใช้อยู่นี่แหละครับ / ยกเว้น Supercars และรถยนต์ปกติทั่วไปบางรุ่นที่มีระบบนี้มาแล้วจากโรงงาน / แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้าโรงงานมีให้มาจริงแต่ยังเป็นระบบที่หยาบอยู่ / ที่ทำงานเป็นจังหวะไม่ได้ต่อเนื่องจริง/ ก็ช่วยได้แต่กรณีนี้จะไม่ได้มากเท่าไหร่) กรณีข้างต้นสำหรับรถที่ใช้ระบบท่อไอเสียโรงงานครับ กรณีทำระบบไอเสียโล่งมากขึ้น ที่พบความจริงกับตนเองว่า ช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ต้องใช้รอบเครื่องสูงขึ้นจึงจะได้แรงบิด (แรงฉุด) เท่าๆ เดิม หรือ ที่ทำโล่งมามากที่เสียงดังๆ ไปแต่เสียงแต่ตัวรถค่อยวิ่งๆ (ซึ่งแรงบิดในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ แย่มาก) กรณีนี้ ท่อไอเสีย VCE ก็ช่วยเพิ่มแรงบิดในช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ไปถึงกลางเพิ่มขึ้นเช่นกัน (ช่วงความเร็วต่ำมาก ช่วงความเร็วประมาณ 0-10 กม./ชม. จะไม่มากเท่าระบบไอเสียโรงงานที่มาเพิ่มท่อไอเสีย VCE เข้าไปครับ แต่ช่วงที่เลยความเร็ว 5-10 กม./ชม. ขึ้นไปจะยอดเยี่ยมกว่า) ///////////////////////////////// ซื้อไปติดตั้งเองเมื่อวันก่อน (Triton 3.2) คันนี้มีกล่องพ่วง เจ้าของรถบอกว่ามีแรงบิดตอนนี้ราวๆ 700 (แกยังเล่าอีกว่า เคยเอาแคทออกแล้วไปขึ้นไดโน่เห็นแรงบิดตก /คงเป็นช่วงรอบต่ำ)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #498 เมื่อ: 14 ตุลาคม 2012, 20:33:48 » |
|
พอดีดูรายการ The Voice ได้ยินผู้ที่เข้าประกวดท่านหนึ่ง พูดแนะนำตัวว่า “ผมเป็นคนดีครับ” ผมได้ยินแล้วก็มีความเห็นว่า บางทีผมก็ควรจะบอกคนอื่นให้รู้ไว้ด้วยน่าจะดีกว่า “ผมเป็นคนดีครับ” ผมไม่รู้ว่าท่านคิดอย่างไร แต่ผมเป็นคนดีแน่นอน แต่ไม่ใช่ประเภทดีเลิศประเสริฐศรี ผมเป็นคนมีเหตุผล ยึดหลักถูกต้องเที่ยงตรง ควรหรือไม่ควร ยืดหยุ่นแต่พอสมควร ไม่ใช่อะไรก็ได้หรือตามใจแล้วแต่จะเอาอย่างไรก็ได้ทั้งนั้นใจดีสุดๆ ไม่ใช่แบบนั้นครับและผมก็หวังว่าลูกค้าทุกท่านคงจะเป็นคนดีเช่นกัน (ในความเป็นจริงคงจะไม่เป็นเช่นนั้นไปทั้งหมด แต่ไม่เป็นไร ผมก็หวังว่าจะเป็นคนดีกันทุกๆ คนนะครับ คงจะไม่มีใครอยากเป็นคนไม่ดีหรอกครับ) ผมหวังว่า ลูกค้ามาเพื่อให้ผมช่วยให้รถของท่านวิ่งดีขึ้นจริงๆ ไม่ใช่มาเพื่อลองเฉยๆ (ที่ช่วงความเร็วตั้งแต่ประมาณ 100 กม./ชม. ลงมา /โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงรอบเครื่องต่ำๆ ความเร็วต่ำๆ / ซึ่งแม้แต่เป็นของต่างประเทศราคาสูงๆ ที่แสนจะโด่งดังต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้ระบบ Variable ก็ยังให้ไม่ได้/ ก็มีที่ไหนทำให้รถบางคันปล่อยคลัชเกียร์ธรรมดารถยังไหลออกไปได้ทั้งๆ ที่ของเดิมแทบไม่อยากจะกระดิก โดยปลายไม่อั้นแต่พุ่งเช่นกัน ซึ่งนี่คือไม้เด็ดสำคัญที่คุณไม่อาจจะหาได้ถ้าไม่ได้ใช้ระบบ Variable แบบเดียวกัน) \\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\ สั่งไปติดตั้งเองเมื่อวันก่อน (คันนี้ทำหม้อพักโล่งมากมา /ผมฟังจากเสียงและสังเกตเวลาออกตัวว่าใช้รอบเป็นอย่างไร)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
phorn
|
|
« ตอบ #499 เมื่อ: 16 ตุลาคม 2012, 19:41:37 » |
|
สั่งไปติดตั้งเองครับ (เมื่อวันก่อน) [/URL] Nissan B14
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|