ใครพอมีอู่ดีย่าน จรัญ ท่าพระ บางแค มั่งมั้ยครับ

[★≈SPK™☆]

ถามเพิ่มอีกนิดครับ ....... ไอ้ค่า K ของสปิงนี่มันดูยังไงอ่ะครับ แล้ว K มากน้อยนี่ดีต้างกันยังงัยครับ
เคยรูแต่ ว่า สปริงบางยี่ห้อรับได้ 1มิล/18 กิโลอ่ะครับ

[ตาบอลตะลอนทัวร์]

ค่า k ของสปริงรถยนต์คือค่าความแข็งของ ขดสปริงรถยนต์หรือคอลย์สปริง ที่ใช้ในระบบรองรับน้ำหนักรถยนต์
       
       สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ เมื่อทำการออกแบบระบบรองรับน้ำหนักรถยนต์ วิศวกรจะต้องกำหนดค่า k ของคอลย์สปริงให้เหมาะสมกับการใช้งานและน้ำหนักของรถยนต์ เพื่อให้ได้สมรรถนะการขับขี่และยึดเกาะถนนที่ดี รวมถึงการทรงตัว และความนุ่มนวลในการขับขี่ โดยสอดคล้องกับการใช้งานจริง
       
       รถยนต์ในแต่ละยี่ห้อจะมีค่า k ที่แตกต่างกันออกไป ถึงแม้ในรถบางรุ่นที่ใช้ตัวถังเดียวกัน แต่ต้องดูว่ามีอะไรแตกต่างกันบ้าง เช่น ขนาดของเครื่องยนต์ ตำแหน่งการจัดวางเครื่อง การออกแบบระบบขับเคลื่อน ระบบกันสะเทือน น้ำหนักรถยนต์รวมทั้งความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกขณะใช้งาน



ค่า k ของสปริงแข็ง เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ความเร็วสูง จะช่วยให้ยึดเกาะถนนทรงตัวดี แต่หากใช้กับการใช้งานทั่วไปที่ความเร็วต่ำจะขาดความนุ่มนวลไปบ้าง แต่ก็ขึ้นกับปัจจัยอื่นประกอบ
       
       ค่า k ของสปริงอ่อน เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานในความเร็วต่ำๆ ซึ่งจะให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงๆ จะทำใหรถมีอาการโยนตัวหรือโคลงได้
       
       ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า หลายคนเมื่อซื้อรถยนต์ใหม่ก็อยากที่จะไปตกแต่งระบบกันสะเทือนใหม่ โดยใช้วิธีเปลี่ยนล้อ เพิ่มขนาดล้อ ดัดแปลงคอลย์สปริงด้วยการตัดหรือเปลี่ยนใหม่ แม้กระทั่งยกชุดเปลี่ยนโช้คอัพใหม่ทั้ง 4 ตัว ตามร้านประดับยนต์ทั่วไป
       
       ดังนั้น หากผู้ใช้รถมีความประสงค์ที่จะดัดแปลงระบบช่วงล่างให้แตกต่างจากโรงงานกำหนด ควรคำนึงถึงค่า k ว่าเหมาะสมกับการใช้งานจริงหรือไม่ หรือสอบถามผู้ที่ชำนาญก่อนตัดสินใจ

-- -- - - - -- - -- - - - -- - -
เพิ่มเติมเองอีกนิดนะครับ  ตามที่ได้ข้อมูลมาจากหนังสืออีกเล่ม(นิตยสาร FMM  NO:11 JUNE 2007)   เดี๋ยวจาพิมพ์ให้อ่านกัน 
ไอ้ตัวค่า K ที่พูดกันมันก็คือ  Sping Rate ซึ่งค่านี้จะมีผลกับความนุ่มนวลของช่วงล่างโดยตรง 

Sping rate (k) คือค่าความแข็ง-อ่อนคงที่ของสปริงที่จะยุบตัวเป็นส่วนตามน้ำหนักที่กดทับ  โดยทั่วไปของญี่ปุ่น จะใช้หน่วยเป็น Kg/mm.  กิโลกรัม/มม.
ซึ่งบ้านเราจะคุ้นเคยกับหน่วย Kg/mm. มากกว่า   แต่ก็มีบ้างที่ใช้หน่วยเป็น N/mm. และ lbf/in...
โดย 1Kg/mm. จะเท่ากับ 56 lbs/in และ 9.86 N/mm. นั่งเอง

ยกตัวอย่าง
คอยล์สปริงของรถรุ่นเดียวกัน แต่ค่า k ต่างกัน คือ 

ตัวแรกอยู่ที่ 8Kg/mm.
ตัวที่สองอยู่ที่ 12 Kg/mm.

เท่ากับว่า สปริงตัวแรกจะยุดตัวลง 1มม. เมื่อมีน้ำหนัก ขนาด 8 กก. มากดทับ  ในขณะที่ตัวที่สอง ต้องใช้น้ำหนักถึง 12 กก. สปริงจึงจะยุบตัวลง 1 มม.

ซึ่งนั่นเท่ากับว่าสปริงตัวที่ 2 แข็งกว่าสปริงตัวแรกนั่นเอง 


มีข้อวิเคราะห์คร่าวๆ ได้ด้วยตาเปล่าครับ

1.ความโตของสปริง ที่ยิ่งข้อใหญ่ก็จะยิ่งแข็งนั่นเอง
2.เส้นผ่าศูนย์กลางของคอยล์สปริง หากได้โดยเอาเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของคอยล์สปริง "ลบ" ด้วยความโตของเส้นสปริง (หน่วยเป็น มม.)  ก็จะได้ตัวเลขของ
เส้นผ่านศูนย์กลางของคอยล์สปริงนั่นเอง  ซึ่งถ้าตัวเลขของเส้นผ่านศูนย์กลางยิ่งมาก (วงกว้างขึ้น) ค่า k ก็จะยิ่งลดลง
3.จำนวน และรูปแบบของขดสปริง   สปริงที่มีจำนวนขดน้อยกว่า จะมีค่าความแข็งสูงกว่า  แต่ก็ยังมีตัวแปรในส่วนของรูปแบบของขดสปริงเกี่ยวข้องอีก  โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบ
   3.1 Linear spring ก็คือ สปริงที่มีระยะห่างระหว่างขดเท่ากันโดนตลอดทั้งชิ้น  สมมติว่าสปริงแต่ละขดห่างกัน 15 มม. มันก็จะห่างเท่ากันยังงั้นตลอดทั้งเส้น  ซึ่งค่า k ของสปริงแบบนี้จะเป็นค่าเดียว
   3.2 step spring สปริงแบบนี้จะมีระยะห่างแต่ละขด แบ่งออกเป็น 2 ระยะคือ  มีทั้งขดถี่และห่าง ในวงเดียวกัน  เช่น 15 กับ 30 มม. เท่ากับว่ามีค่า k 2 ระดับในคอยล์สปริงขดเดียว  คือ  เมื่อมีน้ำหนักมากดทับที่ตัวสปริง ขอที่ถี่จะยุบตัวก่อน(ค่า k น้อย)   จนเมื่อน้ำหนักมากขึ้น ขดสปริงที่ห่าง (ค่า k สูงกว่า) ก็จะเข้ามารับผิดชอบต่อ  เป็นการผสานซึ่งความลงตัวของความนุ่มนวลในขณะคลานและมั่นคงในการขับขี่ยามกระหน่ำคันเร่งหนักๆ  ได้อย่างดี
   3.3  Progressive Sping  แบบนี้จะมีระยะห่างระหว่างขดไม่เท่ากันเลย คือ จะชิด แล้วค่อยๆเพิ่มระยะความห่างไปเรื่อยๆ  ค่า k ของสปริงแต่ละขดก็จะไม่เท่ากันด้วย  เท่ากับว่าสปริงแบบ Progressive  จะนำเสนอตั้งแต่แรงกดน้อยๆ  แล้วค่อยๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่องไปจนถึงค่า k สูงสุดเลยทีเดียว

    จาสรุปแล้วนะครับ  เพราะเมื่อยละ หุหุไม่ได้พิมพ์งานนานละ   

การเลือกใช้สปริงแต่งที่ตรงกับรูปแบบการใช้งานนั้น  นอกจากจะทำให้เกิดตัวรถเตี้ยลงแบบพอดีๆ แล้ว  (ใช้งานไม่ลำบาก) ยังช่วยให้การทรงตัวของรถดีขึ้น  ควบคุมได้ง่าย และนิ่งกว่า  แต่ก็ต้องยอมรับกับความแข็ง และความหนืดที่เพิ่มขึ้นมา  เนื่องจากระยะการทำงานของตัวช็อค และสปริงน้อยลง  ค่าความแข็งของสปริงก็ต้องเพิ่มขึ้นเพื่อกันไม่ให้ล้อ  และซุ้มล้อมาชนกัน  เพราะฉะนั้นจะให้นุ่มสบายเหมือนของเดิมติดรถคงจะไม่ได้.. อยู่ที่คุณแล้วหล่ะว่าจะเลือกแบบ ...นุ่มนวล หรือ  นิ่งหนึบ

ที่มา manager.co.th

[emppty110]

ว่าแต่ คุณ Emppty ชิ้นหน้าทำที่ไหนอ่ะครับ อยากได้มั่งจัง แต่งเทรนด์เดียวกันเลย 

คาริบ ตัว 110 ของแท้ พาร์ททั้งคันไม่มีไฟเบอร์คับ

[★≈SPK™☆]

ว่าแต่ คุณ Emppty ชิ้นหน้าทำที่ไหนอ่ะครับ อยากได้มั่งจัง แต่งเทรนด์เดียวกันเลย 

คาริบ ตัว 110 ของแท้ พาร์ททั้งคันไม่มีไฟเบอร์คับ

ของแท้นี่วัสดุอะไรอ่ะครับ  เทียบกับ fiber แล้วต่างกันมากมั้ยครับ
ไปมองๆ แบบของ uraus สำหรับ A31 มาอ่ะครับ แล้วว่าจะไปสั่งทำให้ใด้กับ AE110 ซะหน่อย แต่ช่าวเค้าว่า วัสดุเป็น fiber ไอ้ผมก้อไม่รู้ว่า  fiber กับไม่ fiber นี่มันต่างกันยังงัยอ่ะครับ เพราะมองแล้วเหมือนเดี๊ยะเลยอ่ะครับ

[ABSOLUTE_SEX]

ว่าแต่ คุณ Emppty ชิ้นหน้าทำที่ไหนอ่ะครับ อยากได้มั่งจัง แต่งเทรนด์เดียวกันเลย 

คาริบ ตัว 110 ของแท้ พาร์ททั้งคันไม่มีไฟเบอร์คับ

ของแท้นี่วัสดุอะไรอ่ะครับ  เทียบกับ fiber แล้วต่างกันมากมั้ยครับ
ไปมองๆ แบบของ uraus สำหรับ A31 มาอ่ะครับ แล้วว่าจะไปสั่งทำให้ใด้กับ AE110 ซะหน่อย แต่ช่าวเค้าว่า วัสดุเป็น fiber ไอ้ผมก้อไม่รู้ว่า  fiber กับไม่ fiber นี่มันต่างกันยังงัยอ่ะครับ เพราะมองแล้วเหมือนเดี๊ยะเลยอ่ะครับ

ขอตอบให้แทน...คุณไก่(Emppty)น่ะครับที่บอกว่าพาร์ททั้งคันหมายความว่าคือชุดแต่งตรงรุ่นครับซึ่งส่วนใหญ่แล้วพาร์ทแท้นั้นจะเป็นวัสดุจำพวกppคือชนิดของพลาสติกน่ะครับมันจะมีสรรพคุณที่แตกต่างจากไฟเบอร์คือ น้ำหนักเบา..ลายเส้นคมชัดและมีความเหนียวในตัวของมันไม่แตกหรือฉีกขาดง่ายเหมือนพวกไฟเบอร์และเมื่อมีการเสียหายกับชิ้นงานนั้นๆก็สามารถซ่อมได้ง่ายและเนียนกว่าไฟเบอร์ครับ แต่ข้อเสียของมันคือมีราคาแพงและพาร์ทบางรุ่นหายากถึงยากมากๆครับ...นี่คือรายละเอียดคร่าวๆน่ะครับ

[eddy]

ค่า k ของสปริงรถยนต์คือค่าความแข็งของ ขดสปริงรถยนต์หรือคอลย์สปริง ที่ใช้ในระบบรองรับน้ำหนักรถยนต์
       
       สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ เมื่อทำการออกแบบระบบรองรับน้ำหนักรถยนต์ วิศวกรจะต้องกำหนดค่า k ของคอลย์สปริงให้เหมาะสมกับการใช้งานและน้ำหนักของรถยนต์ เพื่อให้ได้สมรรถนะการขับขี่และยึดเกาะถนนที่ดี รวมถึงการทรงตัว และความนุ่มนวลในการขับขี่ โดยสอดคล้องกับการใช้งานจริง
       
       รถยนต์ในแต่ละยี่ห้อจะมีค่า k ที่แตกต่างกันออกไป ถึงแม้ในรถบางรุ่นที่ใช้ตัวถังเดียวกัน แต่ต้องดูว่ามีอะไรแตกต่างกันบ้าง เช่น ขนาดของเครื่องยนต์ ตำแหน่งการจัดวางเครื่อง การออกแบบระบบขับเคลื่อน ระบบกันสะเทือน น้ำหนักรถยนต์รวมทั้งความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุกขณะใช้งาน



ค่า k ของสปริงแข็ง เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้ความเร็วสูง จะช่วยให้ยึดเกาะถนนทรงตัวดี แต่หากใช้กับการใช้งานทั่วไปที่ความเร็วต่ำจะขาดความนุ่มนวลไปบ้าง แต่ก็ขึ้นกับปัจจัยอื่นประกอบ
       
       ค่า k ของสปริงอ่อน เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานในความเร็วต่ำๆ ซึ่งจะให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่เมื่อใช้ความเร็วสูงๆ จะทำใหรถมีอาการโยนตัวหรือโคลงได้
       
       ปัจจุบันจะเห็นได้ว่า หลายคนเมื่อซื้อรถยนต์ใหม่ก็อยากที่จะไปตกแต่งระบบกันสะเทือนใหม่ โดยใช้วิธีเปลี่ยนล้อ เพิ่มขนาดล้อ ดัดแปลงคอลย์สปริงด้วยการตัดหรือเปลี่ยนใหม่ แม้กระทั่งยกชุดเปลี่ยนโช้คอัพใหม่ทั้ง 4 ตัว ตามร้านประดับยนต์ทั่วไป
       
       ดังนั้น หากผู้ใช้รถมีความประสงค์ที่จะดัดแปลงระบบช่วงล่างให้แตกต่างจากโรงงานกำหนด ควรคำนึงถึงค่า k ว่าเหมาะสมกับการใช้งานจริงหรือไม่ หรือสอบถามผู้ที่ชำนาญก่อนตัดสินใจ

-- -- - - - -- - -- - - - -- - -
เพิ่มเติมเองอีกนิดนะครับ  ตามที่ได้ข้อมูลมาจากหนังสืออีกเล่ม(นิตยสาร FMM  NO:11 JUNE 2007)   เดี๋ยวจาพิมพ์ให้อ่านกัน 
ไอ้ตัวค่า K ที่พูดกันมันก็คือ  Sping Rate ซึ่งค่านี้จะมีผลกับความนุ่มนวลของช่วงล่างโดยตรง 

Sping rate (k) คือค่าความแข็ง-อ่อนคงที่ของสปริงที่จะยุบตัวเป็นส่วนตามน้ำหนักที่กดทับ  โดยทั่วไปของญี่ปุ่น จะใช้หน่วยเป็น Kg/mm.  กิโลกรัม/มม.
ซึ่งบ้านเราจะคุ้นเคยกับหน่วย Kg/mm. มากกว่า   แต่ก็มีบ้างที่ใช้หน่วยเป็น N/mm. และ lbf/in...
โดย 1Kg/mm. จะเท่ากับ 56 lbs/in และ 9.86 N/mm. นั่งเอง

ยกตัวอย่าง
คอยล์สปริงของรถรุ่นเดียวกัน แต่ค่า k ต่างกัน คือ 

ตัวแรกอยู่ที่ 8Kg/mm.
ตัวที่สองอยู่ที่ 12 Kg/mm.

เท่ากับว่า สปริงตัวแรกจะยุดตัวลง 1มม. เมื่อมีน้ำหนัก ขนาด 8 กก. มากดทับ  ในขณะที่ตัวที่สอง ต้องใช้น้ำหนักถึง 12 กก. สปริงจึงจะยุบตัวลง 1 มม.

ซึ่งนั่นเท่ากับว่าสปริงตัวที่ 2 แข็งกว่าสปริงตัวแรกนั่นเอง 


มีข้อวิเคราะห์คร่าวๆ ได้ด้วยตาเปล่าครับ

1.ความโตของสปริง ที่ยิ่งข้อใหญ่ก็จะยิ่งแข็งนั่นเอง
2.เส้นผ่าศูนย์กลางของคอยล์สปริง หากได้โดยเอาเส้นผ่าศูนย์กลางด้านนอกของคอยล์สปริง "ลบ" ด้วยความโตของเส้นสปริง (หน่วยเป็น มม.)  ก็จะได้ตัวเลขของ
เส้นผ่านศูนย์กลางของคอยล์สปริงนั่นเอง  ซึ่งถ้าตัวเลขของเส้นผ่านศูนย์กลางยิ่งมาก (วงกว้างขึ้น) ค่า k ก็จะยิ่งลดลง
3.จำนวน และรูปแบบของขดสปริง   สปริงที่มีจำนวนขดน้อยกว่า จะมีค่าความแข็งสูงกว่า  แต่ก็ยังมีตัวแปรในส่วนของรูปแบบของขดสปริงเกี่ยวข้องอีก  โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบ
   3.1 Linear spring ก็คือ สปริงที่มีระยะห่างระหว่างขดเท่ากันโดนตลอดทั้งชิ้น  สมมติว่าสปริงแต่ละขดห่างกัน 15 มม. มันก็จะห่างเท่ากันยังงั้นตลอดทั้งเส้น  ซึ่งค่า k ของสปริงแบบนี้จะเป็นค่าเดียว
   3.2 step spring สปริงแบบนี้จะมีระยะห่างแต่ละขด แบ่งออกเป็น 2 ระยะคือ  มีทั้งขดถี่และห่าง ในวงเดียวกัน  เช่น 15 กับ 30 มม. เท่ากับว่ามีค่า k 2 ระดับในคอยล์สปริงขดเดียว  คือ  เมื่อมีน้ำหนักมากดทับที่ตัวสปริง ขอที่ถี่จะยุบตัวก่อน(ค่า k น้อย)   จนเมื่อน้ำหนักมากขึ้น ขดสปริงที่ห่าง (ค่า k สูงกว่า) ก็จะเข้ามารับผิดชอบต่อ  เป็นการผสานซึ่งความลงตัวของความนุ่มนวลในขณะคลานและมั่นคงในการขับขี่ยามกระหน่ำคันเร่งหนักๆ  ได้อย่างดี
   3.3  Progressive Sping  แบบนี้จะมีระยะห่างระหว่างขดไม่เท่ากันเลย คือ จะชิด แล้วค่อยๆเพิ่มระยะความห่างไปเรื่อยๆ  ค่า k ของสปริงแต่ละขดก็จะไม่เท่ากันด้วย  เท่ากับว่าสปริงแบบ Progressive  จะนำเสนอตั้งแต่แรงกดน้อยๆ  แล้วค่อยๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่องไปจนถึงค่า k สูงสุดเลยทีเดียว

    จาสรุปแล้วนะครับ  เพราะเมื่อยละ หุหุไม่ได้พิมพ์งานนานละ   

การเลือกใช้สปริงแต่งที่ตรงกับรูปแบบการใช้งานนั้น  นอกจากจะทำให้เกิดตัวรถเตี้ยลงแบบพอดีๆ แล้ว  (ใช้งานไม่ลำบาก) ยังช่วยให้การทรงตัวของรถดีขึ้น  ควบคุมได้ง่าย และนิ่งกว่า  แต่ก็ต้องยอมรับกับความแข็ง และความหนืดที่เพิ่มขึ้นมา  เนื่องจากระยะการทำงานของตัวช็อค และสปริงน้อยลง  ค่าความแข็งของสปริงก็ต้องเพิ่มขึ้นเพื่อกันไม่ให้ล้อ  และซุ้มล้อมาชนกัน  เพราะฉะนั้นจะให้นุ่มสบายเหมือนของเดิมติดรถคงจะไม่ได้.. อยู่ที่คุณแล้วหล่ะว่าจะเลือกแบบ ...นุ่มนวล หรือ  นิ่งหนึบ

ที่มา manager.co.th

[eddy]

ว่าแต่ คุณ Emppty ชิ้นหน้าทำที่ไหนอ่ะครับ อยากได้มั่งจัง แต่งเทรนด์เดียวกันเลย 

คาริบ ตัว 110 ของแท้ พาร์ททั้งคันไม่มีไฟเบอร์คับ

หายากนะตัวนี้...

[★≈SPK™☆]

กำ อยากหล่อมั่ง  ท่าจะยากแฮะ (งบท่าจะบานปลายถ้าของแท้)

เพิ่งไปอัดโช๊คมาใหม่ซะด้วย เพื่อต้อนรับ ขอบ 195/50 15  แต่ยังขูดซุ้มล้ออยู่ดีเวลานั่ง 3 เซ็งเลย
แปลกใจที่เป็นแค่ ฝั่งซ้ายหลังเท่านั้น ถ้าไปใส่ปริงใหม่ จะหายมั้ยคับเนี่ยยยยยยยยยย

โอย.....ยย โปรแกรมยาว ว่าจะไปวิ่งหาชุดรอบคัน สงสัยต้องแก้เรื่องขูดซุ้มให้จบก่อนแล้ว

[eddy]

กำ อยากหล่อมั่ง  ท่าจะยากแฮะ (งบท่าจะบานปลายถ้าของแท้)

เพิ่งไปอัดโช๊คมาใหม่ซะด้วย เพื่อต้อนรับ ขอบ 195/50 15  แต่ยังขูดซุ้มล้ออยู่ดีเวลานั่ง 3 เซ็งเลย
แปลกใจที่เป็นแค่ ฝั่งซ้ายหลังเท่านั้น ถ้าไปใส่ปริงใหม่ จะหายมั้ยคับเนี่ยยยยยยยยยย

โอย.....ยย โปรแกรมยาว ว่าจะไปวิ่งหาชุดรอบคัน สงสัยต้องแก้เรื่องขูดซุ้มให้จบก่อนแล้ว

ไม่หายแน่นอน นั่ง 3-4 เดี๋ยวก็ขูด...
บรรทุกมาก ลงคอสะพานแรงไปหน่อย ก็โดน...
ติดแก๊ส...ยิ่งโดน...
 

[eddy]

ของแท้ ไม่ค่อยถูก
ของถูก ไม่ค่อยแท้...

[emppty110]

กำ อยากหล่อมั่ง   ท่าจะยากแฮะ (งบท่าจะบานปลายถ้าของแท้)

เพิ่งไปอัดโช๊คมาใหม่ซะด้วย เพื่อต้อนรับ ขอบ 195/50 15  แต่ยังขูดซุ้มล้ออยู่ดีเวลานั่ง 3 เซ็งเลย
แปลกใจที่เป็นแค่ ฝั่งซ้ายหลังเท่านั้น ถ้าไปใส่ปริงใหม่ จะหายมั้ยคับเนี่ยยยยยยยยยย

โอย.....ยย โปรแกรมยาว ว่าจะไปวิ่งหาชุดรอบคัน สงสัยต้องแก้เรื่องขูดซุ้มให้จบก่อนแล้ว

เปลี่ยนสปริงก้อเท่านั้นครับ
เจียรซุ้มหลบ ง่ายกว่า ได้ระยะยาวด้วย

เปลี่ยนสปริงช่วยได้ แต่ถ้าล้าแล้วมันก้อขูดอยู่ดี

ถ้าติดแก็สแล้ว นั่ง 4 คนตลอด ไม่เกินปีสองปีก้อเน่าแล้วคับ


ส่วนเรื่องกันชน อยากได้ หาง่ายๆ คับ หน้าตัดเต็มบางนาเลย ยกหน้าไม่เกินหมื่น
แต่เฉพาะกันชน 5 ปีผมเจออันเดียว

ยกหน้ามาเด๋วผมบอกวิธีใส่ให้

[★≈SPK™☆]

เมื่อวาน ผมไป ตจว มา เอาไปลองอัดทางไกลดู ปรากฏว่า วิ่งเกิน 100 เมื่อไหร่ พวงมาลัยสั่นเป็นเจ้าเข้าเลยครับ......  เอาไปตั้งศุนย์ ที่ B-Quick ก้อไม่หายอีกครับ กลับไปร้านที่ซื้อแม๊กมา เค้าก้อ บอกว่าเค้าถ่วงแมกมาแล้ว (ไม่รู้ว่าจิงมั้ย ) ไม่เห็นมีร่องรอยเลย  มาดูอีกที ก้อ มี เพิ่งเปลี่ยน ชุด kit rack พวงมาลัยมาอ่ะครับ เกี่ยวกันมั้ยครับ

  ปล. เรื่องล้อโดนซุ้ม ไปอัดโช๊คมาก้อ ยังเป็นอยู่อ่ะครับ นั่งแค่ 2 คนเอง แต่สังเกตุว่าเป็นที่หลังซ้ายอย่างเดียวเลย ครับ ทั้งที่ ผมคนขับ นน มากกว่าคนนั่งซ้ายอีกนะครับ นั่งแค่ 2 คนเท่านั้นสัมภาระนิดหน่อย (เวลาจอดเฉยๆ ไม่มีคนนั่ง รู้สึกว่ารถจะตกซ้าย คือ ด้านผู้โดยสารอ่ะครับ)