จอดรถในห้างให้ปลอดภัยทำอย่างไรมาดูกัน

แน่นอนว่าเรานั้นซื้อรถยนต์มาด้วยราคาที่แพง ฉะนั้นเราเองก็คงอยากที่จะให้รถยนต์ของเรานั้นสามารถใช้งานได้นานๆ รวมถึงไท่เกิดความเสียหายใดๆ ตามมา ฉะนั้นจึงมีกฎหมายขึ้นมาว่าให้รถทุกคันทุกประเภทนั้นต้องทำ ประกันรถยนต์ ตาม พรบ รถยนต์ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องงกันความเสียดายที่อาจจะเกิดตามมาทั้งในกรณีของทรัพย์สินและก็คน แต่ถ้าหากว่าใครที่อยากจะได้ความคุ้มครองเพิ่มมากขึ้นนั้นก็อาจจะเลือกทำ ประกันรถยนต์ ภาคสมัครใจก็ได้ อย่างเช่น ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ประกัน รถยนต์ 2 หรือประกันชั้น 3 เป็นต้น ทั้งนี้ใน ประกันภัยรถยนต์ชั้น1 นั้นก็จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด รวมไปถึงในกรณีที่รถยนต์หายด้วย และในวคนนี้สำหรับใครก็ตามที่ชอบไปห้างสรรพสินค้านั้นก็จะเห็นได้ว่าในลานจอดรถนั้นถ้าหากว่าห้างใดที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ดูไม่แน่นหนานั้นก็อาจจะเกิดความกังวลเวลาที่เอารถไปจอด ฉะนั้นในวันนี้เราจึงมีวิธีการจอดรถในห้างมาฝากเพื่อนๆ ทุดคนกันด้วย
1.   จอดรถในชั้นที่มีทางเข้าห้างฯ เท่านั้น โดยห้างสรรพสินค้าบางแห่งอาจแบ่งที่จอดรถออกเป็นสองชั้นทำให้เกิดเป็นชั้นครึ่งที่ไม่มีทางเข้าห้างโดยตรง จำเป็นต้องเดินขึ้น-ลงบันได เพื่อไปยังชั้นที่มีทางเข้าตัวห้างฯ ซึ่งชั้นครึ่งเหล่านี้จะมีผู้คนเดินพลุกพล่านน้อยกว่าชั้นปกติ จึงอาจจะเป็นการเปิดโอกาสให้ขโมยสามารถลงมือได้ง่ายขึ้น ทางที่ดีควรเลี่ยงชั้นครึ่งเหล่านี้ไปจอดชั้นที่มีทางเข้าห้างแทนเสียดีกว่า
2.   จอดรถใกล้ทางเข้าห้างฯ มากที่สุด นอกจากจะจอดรถในชั้นที่มีทางเข้าไปยังตัวห้างฯ แล้ว ยังควรจอดรถใกล้กับประตูห้างฯ ด้วย เนื่องจากเป็นจุดที่มีคนเดินผ่านอยู่แล้ว หากจอดรถไว้ที่ไกลๆ อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยวและลับตาคน จึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงนั่นเอง
3.   ตรวจสอบให้แน่ใจทุกครั้งว่าล็อคประตูเรียบร้อยแล้วจริงๆ ด้วยการดึงมือเปิดประตูอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเปิดไม่ออก สำหรับรถบางรุ่นที่มีระบบ Keyless Entry ที่ใช้มือเปิดประตูแบบสัมผัสนั้นก็เพียงก้มลงไปดูว่าตัวล็อคภายในถูกกดลงแล้ว เนื่องจากปัจจุบันหัวขโมยมีเครื่องมือที่สามารถส่งสัญญาณรบกวนคลื่นรีโมทของรถ ซึ่งหากเจ้าของรถไม่ตรวจสอบอย่างรอบคอบ ก็อาจตกเป็นเหยื่อได้โดยง่าย
4.   จอดรถในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ เนื่องจากถ้าจอดรถในที่มืดจะทำห้เหล่ามิจฉาชีพทำงานได้สะดวกขึ้น เพราะโอกาสที่จะถูกพบเห็นมีน้อยกว่าทางที่ดีควรจอดในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอนั่นเอง
5.   เก็บของมีค่าให้มิดชิดที่สุด เนื่องจากบางคนมักเก็บกระเป๋าถือไว้ใต้เบาะคนนั่งแล้วปล่อยให้สายกระเป๋าโผล่ออกมาโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งหัวขโมยก็จะรู้ทันทีว่ามีของมีค่าอยู่ใต้เบาะแน่นอน ทางที่ดีควรเก็บสิ่งของประเภทกระเป๋า อุปกรณ์ราคาแพงต่างๆ หรือแม้แต่ถุงที่มีลักษณะสวยงาม ควรเอาไว้ในกระโปรงท้ายรถให้หมด ส่วนรถที่มีลักษณะแฮทช์แบ็คก็ควรปิดแผงบังตาไว้ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้โจรพบเห็นสิ่งของได้ง่าย